'ไม่มีคำว่าสายเกินไปในการค้นพบ และเริ่มทำในสิ่งที่ใช่..' พูดคุยกับณัฏฐ์ ศิริ Brisbane Student Ambassador ปี 2016

เผยแพร่เมื่อ 23 ม.ค. 2017 ผู้เขียน
Lord Mayor Graham Quirk, Nut Siri (Student Ambassadors 2016 - Thailand) Lord Mayor Graham Quirk, Nut Siri (Student Ambassadors 2016 - Thailand)
ก่อนหน้านี้เราได้ไปรู้จักกับพี่ 'คิมมิม' ขวัญข้าว สิงหเสนี หนึ่งในสองคนไทยที่ดำรงตำแหน่ง Brisbane Student Ambassador ประจำปี 2016 ไปแล้ว คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับอีกคนนั่นคือ 'นัต' ณัฏฐ์ ศิริ คนเก่งอีกคนที่มีความสามารถและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน

nut-siri-student-ambassador
ทีมา: choosebrisbane.com.au

 

เป็น Student Ambassador ได้เที่ยว ทำกิจกรรมหลายอย่างฟรี และได้รู้จักเพื่อนเพิ่มอีกด้วย

ในปีนี้มี Ambassador ของไทยอยู่ 2 คน มีนัตแล้วก็พี่อีกคนนึง ซึ่งเป้าหมายของการมี Ambassador ก็เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับชีวิตนักเรียนผ่านมุมมองของแต่ละเชื้อชาติให้แก่ผู้ที่สนใจ โดยวาระของนัตจะหมดตอนเดือน ก.พ. 2017 แล้วก็จะมีการส่งมอบตำแหน่งให้คนต่อไป ตอนนี้เริ่มเปิดรับสมัครแล้วนะครับ หากใครสนใจ ทาง Study Brisbane ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Brisbane Marketing จะมีทุนให้เราไปเที่ยว ไปงานอีเวนท์ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ บริสเบน เราก็มีหน้าที่แชร์ประสบการณ์ของเราผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ สนุกดีครับ ได้เจอเพื่อน ๆ Ambassador จากประเทศอื่นด้วย

20170123-nut-siri-02

 

การเรียนทางด้านอาหารเป็นอย่างไรบ้าง?

นัตเรียน Commercial Cookery TAFE ปกติเค้าจะแบ่งสายเป็น 2 สาย คือ Patisserie เน้นทำขนม ทำเบเกอรี่ แต่ของนัตเป็นเชฟ ก็คือเรียนทุกอย่าง ใช้เวลาปีครึ่ง สอนตั้งแต่แบบว่า หั่นผักอย่างนี้เรียกว่าอะไร ลับมีด ทุกอย่างตั้งแต่เบสิค นัตว่าการทำอาหารมันต้องใช้เวลาเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ว่าเราเรียนจบแล้วจะเป็นทุกอย่าง เพราะอย่างที่นัตทำงาน แต่ละร้านอาหารที่เราทำ เราคิดว่าเราคล่องแล้วทำร้านนี้ แต่พอไปอีกร้านนึง เค้าก็จะมีวิธีของเค้าที่แตกต่างออกไป ซึ่งเราก็ต้องไปเรียนใหม่หมดทุกอย่างอีก

20170123-nut-siri-03

20170123-nut-siri-17

 

ทำยังไงถึงได้ทำงานกับร้านต่างชาติ?

งานที่นัตได้เกือบทั้งหมดมาจาก Instagram ครับ (4nutspace) นัตทำฟู้ดดี้ลงรูปแล้วก็รายละเอียดว่าร้านอะไรอยู่ที่ไหนพร้อมบอกราคาด้วย เป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เวลานัตทำอาหารเองก็จะเอามาลง ทำให้เป็นเหมือน resume blogger ของตัวเอง พอเจ้าของร้านเค้าเข้ามาเห็นก็ติดต่อมาครับ ช่วงก่อนหน้านี้ได้เริ่มงานเป็นผู้จัดการร้านอาหารที่ Madtongsan II (Korean Cuisine) เป็นเชฟที่ Harajuku Gyoza สาขา South Bank, ร้าน Gauge South Brisbane แต่ตอนนี้ทำกับเครือ Venzin Group ( Picnic Café, Camp Hill)

20170123-nut-siri-04
instagram: @4nutspace

 

Gold Coast และ Brisbane คนไทยไม่ชุกชุม เมืองติดทะเล และโอกาสในการทำงานกับไลฟ์สไตล์แบบชิลชิล

มาออสเตรเลียครั้งแรกตอนปี 2010 เรียนจบวิศวะจากพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สาขาเครื่องกลการเกษตร ตอนนั้นนัตพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมากเลย แล้วรู้สึกว่าวิศวะถ้าได้ภาษาอังกฤษด้วยมันจะดี ถามเอเจนท์เค้าบอกว่าที่รัฐควีนส์แลนด์นี้คนไทยน้อย บวกกับส่วนตัวเป็นคนชอบทะเล ก็เลยมาลงเรียนภาษาที่ Gold Coast ก่อน ช่วงนั้นก็มีโอกาสได้นั่งรถไฟเข้ามาเที่ยวที่ Brisbane แบบไปเช้าเย็นกลับ รู้สึกว่าบริสเบนน่าอยู่ ดูเป็นเมืองดี ก็เลยตัดสินใจย้ายหลังจากเรียนได้ 6 เดือน มาเรียน Business กับ Viva College ที่ Brisbane 1 ปี

20170123-nut-siri-05
20170123-nut-siri-06

ทำงานที่ไทยตรงสายก็จริง แต่เราให้เวลากับงานจนหมด อยู่ที่นี่เราสามารถทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้ในหนึ่งวัน

กลับไทยก็ลองหางานวิศวะทำครับ เพราะอยากรู้ว่าเราชอบจริง ๆ รึเปล่า ก็ได้งานเครือ CP เป็น Senior Sale Engineer ดูแลเกี่ยวกับเรื่องการขายโปรเจคโรงงาน คือเราสร้างโรงงานให้ทั้งโรงงานเลยครับ ดูระบบเครื่องจักร เปลี่ยนแปลงเครื่องจักร นำเข้า ติดตั้ง แต่นัตจะดูสายโรงงานสัตว์เลี้ยง พวกโรงน้ำมันรำข้าว ทางด้านเกษตร ทำประมาณ 2 ปี แล้วก็รู้สึกคิดถึงการใช้ชีวิตที่นี่ ตอนทำงานที่ไทยรู้สึกว่าเราให้เวลากับบริษัทเยอะมาก ก็เลยบอกผู้จัดการไปว่าจะลาออกเพราะอยากมาเปิดร้านอาหาร ผู้จัดการก็ถามว่าแล้วทำไมไม่ทำงานไปด้วยเปิดร้านไปด้วยล่ะ ถ้าเกิดทำแล้วมันไม่ดีจะทำไง แต่นัตก็ยังอยากทำตามฝัน นัตไม่กลัวที่จะได้ลอง ก็เลยสอบ working holiday visa มา แล้วพอรู้ผลว่าได้ก็ลาออกเลยครับ กลับมาที่บริสเบน ชอบ.. เพราะรู้สึกว่าเรา manage เวลาตัวเองได้ และสามารถทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้ภายในวันเดียว มันมีโอกาสเข้ามาเยอะ เพราะถ้าเป็นที่ไทยเราทำงานก็คงไม่มีเวลาไปเรียนหรือทำอย่างอื่น แต่อย่างเนี้ยอ่ะดี เราได้เรียนที่เราชอบแล้วก็ได้ฝึกงาน แถมยังได้เพื่อนอีก แต่ก็ยังคิดถึงเมืองไทยตลอดครับ เพราะครอบครัวแล้วก็เพื่อน ๆ อยู่ที่นั่น

20170123-nut-siri-08
20170123-nut-siri-07

 

ค้นพบ passion ของตัวเองได้ยังไง?

เริ่มจากการได้เข้าไปทำงานในร้านอาหารตั้งแต่ช่วงที่มาเรียนแรก ๆ ได้งานล้างจานที่ร้านไทยใน Gold Coast แล้วก็ขยับมาทำแกง ทำ Entree พอได้ภาษาหน่อยก็ออกมาเสิร์ฟ เป็นเสต็ป ๆ ไป แต่พอมาอยู่ที่ Brisbane ก็ได้เริ่มทำร้านอาหารต่างชาติครั้งแรกที่ Madtongsan II ตอนนั้นก็รู้สึกดีเหมือนกัน ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้เพราะว่าเค้าเกาหลีหมดเลยทั้งร้าน เจ้าของร้านก็ถามว่ารู้จักอาหารเกาหลีมั้ย นัตก็บอกอยู่ไทยก็กินแต่เนื้อย่างเกาหลี (ฮา) เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวชั้นติดต่อกลับ คิดว่าไม่ได้ละ ก็เดินลงมาจากร้าน พอเดินลงมา เจ้าของร้านก็วิ่งตามมาแล้วก็บอกว่า เอางี้ เริ่มงานพรุ่งนี้เลยละกัน สรุปแล้วก็ได้งาน ก็ทำจนวีซ่าหมดแล้วก็กลับไทยตอน พ.ย. 2011

รู้สึกชอบงานบริการ ได้คุยกับลูกค้า เวลาที่เราดูแลเค้าดีแล้วเค้าบอกเจ้านายเรา เราก็รู้สึกดี มันก็ relate กับงาน sales ที่นัตทำที่ CP แต่ว่าอันนั้นคืองานมันไม่จบ เราต้องเอากลับมาทำที่บ้านต่อ ที่ไทยก็มี OT เยอะ เพราะงานมันเป็นโปรเจค มันไม่ใช่วันเดียวจบ แต่งานร้านอาหารพอเสิร์ฟเสร็จก็จบ ไม่ต้องเครียด แล้วคือมันฟินตั้งแต่ไปผัดอาหารอยู่หลังร้านแล้วครับ ยิ่งพอมาหน้าร้านแล้วเจอลูกค้าแฮปปี้เราก็ฟินมากไปอีก

20170123-nut-siri-10

 

ปฏิเสธการทำงานแบบสบายที่ร้านอาหารอันดับ 1 ของเอเชีย เพื่อเป้าหมายที่เราตั้งใจ

หลังจาก working holiday visa หมดก็กลับไปไทย 3 เดือน เพื่อต่อวีซ่านักเรียน ได้มีโอกาสไปฝึกงานร้านอาหาร Gaggan ที่เป็นอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 10 ของโลก เป็นร้านอาหารอินเดียแบบ fine dining นัตได้ทำข้างหน้าเป็น customer service จะมีหน้าที่แค่ยืนที่โต๊ะ อาหารก็จะมีคนเสิร์ฟมาให้ แล้วนัตจจะเป็นคนอธิบายอาหารว่าชื่ออะไร เรื่องราวของจากนี้เป็นอย่างไร กรรมวิธีเป็นอย่างไร เป็นภาษาอังกฤษ งานก็สบาย และได้เจอลูกค้าระดับ VIP ดารา นักแสดงต่างชาติเยอะมากครับ ตอนแรกก็คิดว่าอยากอยู่ต่อ แต่ว่าเราวางแผนจะกลับมาเรียนเชฟต่อ และจ่ายค่าเทอมหมดแล้ว ตอนที่นัตออกเจ้าของร้านเค้าไม่คุยกับนัตเลย เพราะเหมือนว่าคนรอที่จะทำงานกับเค้า แต่เราได้เข้าไปแล้วทำไมเราอยากออกมา เราก็มีเหตุผลของเรา เค้าก็บอกว่านัตน่ะแก่เกินไปที่จะมาเริ่มเชฟแล้ว แล้วทำไมต้องไปออสเตรเลีย "Your plan is like f*cked up" ออสเตรเลียไม่เห็นมีอาหารอะไร ถ้าจะไปทำไมไม่ไปฝรั่งเศสหรือสเปน ตอนนั้นนัตโกรธมากนะครับ แต่นัตก็คิดว่าคนเรามีโอกาสที่จะเลือกทางเดินต่างกันในการที่จะเริ่มต้นทำอะไรก็ตาม ตอนนั้นนัตตอบไปว่า "I believe you but I have already made my decission" บอกตรง ๆ นัตก็ไม่รู้หรอกนะว่าตัดสินใจถูกหรือผิด แต่นัตแค่ไม่อยากมาเสียใจทีหลังว่าไม่ได้ลองทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว สุดท้ายถึงมันจะออกมาแย่ แต่อย่างน้อยนัตก็ได้ลองทำมันและเรียนรู้จากมัน

 

ทำงานกับร้านอันดับ 1 ของควีนส์แลนด์ ความภูมิใจที่ต้องแลกกับความมั่นใจและไมเกรน

ก่อนหน้านี้นัตโชคดีมากครับได้ทำงานอยู่ที่ร้าน Gauge ตรง Fish Lane เป็นร้านที่ได้ที่ 1 ของรัฐควีนส์แลนด์ และถือว่าได้ลองทำงานสายเชฟแบบก้าวกระโดจริง ๆ  นัตว่าเค้ารับนัตเพราะนัตเคยทำงานอยู่ที่ Gaggan และสนใจการทำ Instragam ในด้านอาหาร นัตชอบตอนที่ทำงานอยู่ที่ Gauge มากแต่ก็เครียดมากเหมือนกันกับแรงกดดันเพราะเราถือว่าเราประสบการณ์น้อยที่สุดในร้านเหมือนเทียบกับคนอื่น ๆ ทั้งหมด  อาหารทุกอย่างจะละเอียดมาก คือเชฟใหญ่เค้าเก่งมากครับ อายุแค่ 25 ปี แล้วเค้าจะคาดหวังให้เพอร์เฟคทุกอย่าง ซึ่งมันก็ฝึกและพัฒนาตัวเองมาก ๆ มีอยู่วันนึงนัตตั้งใจทำสุดฝีมือแล้วเค้าก็มาถาม “Do you think this is beautiful?” แล้วเค้าก็เขวี้ยงทิ้งเลย เราเองตอนนั้นงงมาก แต่นัตบอกตัวเองทุกวันว่าจะไม่ยอมแพ้  ก็ตั้งใจสู้ทำให้ดีขึ้น จนเค้าให้นัตรับผิดชอบ main ladder section ของนัตคนเดียวเลย แต่ว่าด้วยความเป็นคนมันก็มีผิดพลาดกันบ้าง แต่เชฟใหญ่เค้าจะไม่ค่อยยอมรับ มันเครียดหนัก ๆ เข้า สะสม ๆ รู้สึกว่าเราตัวเล็กลงเรื่อย ๆ ความมั่นใจในการทำอาหารของเราก็หายไป วันนึงที่เราคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แล้วเราก็เอาความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง แต่ก็ยังคงโดนตำหนิ เราก็เรียนรู้ทุกอย่างมากขึ้นจนถึงเดือนที่ 7 นัตเลยตัดสินใจลาออกจากร้านนี้ และลองหยุดพักหา Idea ในการทำอาหารแนวที่เราสนใจ

 

สุดท้ายนัตก็ได้เริ่มงานกับเครือ Venzin Group และได้รับโอกาส Sponsorship จากทางร้านให้ได้ทำงาน Full time Chef อย่างจริงจัง หลังจากนัตเพิ่งได้จบการศึกษาจาก Commercial cookery TAFE, Brisbane ครับ

20170123-nut-siri-14
20170123-nut-siri-16
20170123-nut-siri-13

 

สุดท้ายนี้นัตอยากฝากให้เพื่อน ๆ ที่กำลังตามหาฝัน ตามสิ่งที่ตัวเองรัก ไม่ต้องรีบครับแต่ก็อย่าหยุดนิ่งครับ มองหา ลองทำสิ่งใหม่รอบตัวไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเราเริ่มรู้สึกหลงรักอะไรบางอย่างและคิดว่ามันใช่แล้ว ก็อย่าปล่อยผ่านไปทำมันให้เต็มที่ครับ แล้วชีวิตทุกอย่างจะลงตัว น่าอยู่อย่างน่าเหลือเชื่อ

MaBrisbane

Welcome to The Sunshine State