ขอวีซ่านักเรียนไม่ต้องใช้ statement !! กับ ระบบการออกวีซ่าแบบเร่งด่วน "SVP"

เผยแพร่เมื่อ 28 พ.ค. 2015 ผู้เขียน

สวัสดีค่ะ พบกันอีกครั้งกับพี่เพนนีนะค่ะ ครั้งนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องของวีซ่านักเรียนประเภทเร่งด่วน (Streamlined Visa Processing - SVP) วีซ่ามาแรงของนักเรียนต่างชาติที่มาเรียนในออสเตรเลียภายใต้หลักสูตรของทะเบียน CRICOS ที่ทำให้การมาเรียนออสเตรเลียนั้นง่ายและสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งหลายคนคงพอได้ยินกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเรียกมันว่า “วีซ่าไม่ต้องใช้ statement” ทีนี้เรามาทำความรู้จักกันว่า เจ้า SVP นี้มันเป็นอย่างไรกัน..

 

SVP คือ อะไร?

ย่อมาจาก Streamlined visa processing เป็นการพิจารณาวีซ่าแบบเร่งด่วนสำหรับสถาบันในระดับอุดมศึกษา ซึ่งได้แก่ วิทยาลัย หรือ มหาวิทยาลัย ที่เปิดคอร์สในระดับ Advanced Diploma ขึ้นไป โดยพึ่งมีการใช้ระบบนี้ได้ไม่นานมานี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าระดับ Advanced Diploma ของทุกสถาบันการศึกษาในออสเตรเลียจะได้รับ SVP นะค่ะ เป็นบางแห่งที่ทางอิมมิเกรชันให้เครดิต ส่วนใหญ่ก็จะเป็นมหาวิทยาลัยกับ TAFE ทั้งหมดค่ะ

 

หลักสูตรที่สามารถได้รับสิทธิพิจารณวีซ่าแบบเร่งด่วน หรือ SVP ได้แก่ :

  • Advanced diploma
  • Bachelor degree
  • Master's degree
  • Doctoral degree
  • Non-award university student exchange program
  • Non-award study abroad program

ตรวจสอบรายชื่อสถาบันที่เข้าร่วมในระบบ SVP :

(http://www.comlaw.gov.au/Details/F2015L00537)

 

แล้วมี SVP มันดีอย่างไร?

ถ้าถามพี่ก็ดีในแง่ของการทำวีซ่า เพราะไม่ว่าน้องจะมาจากประเทศไหน ถ้าลงคอร์สที่ได้ SVP แล้ว ในการพิจารณาวีซ่าทางเจ้าหน้าที่จะถือว่ามีคล้ายคลึงกันกับวีซ่าประเภท 1 (Assessment Level 1, AL 1) ซึ่งถือว่าเป็นประเภทที่การพิจารณาวีซ่าเร็วและง่ายที่สุด และไม่ต้องโชว์เงินใน Bank statement ไม่ต้องมี Sponsor เลย

มาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะยิ้ม “อย่างงี้ไม่มีเงินก็มาเรียนออสเตรเลียได้แล้วอะสิ!”

คำตอบคือ.. “ได้ และ ไม่ได้ ค่ะ อ๊ะ... งงใช่ไหม?” ที่ตอบว่า “ได้” ก็เพราะวีซ่าประเภทนี้ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องแจ้งว่าใครเป็นสปอนเซอร์และสปอนเซอร์มีเงินไหม แต่ที่ตอบว่า “ไม่ได้” ก็เพราะ.. ตามปกติในการสมัครคอร์สเรียนที่เกี่ยวกับวีซ่าประเภทนี้ใบสมัครของวิทยาลัยจะมีหลายแผ่นเยอะมากกกก มีคำถามมากมาย ยิ่งกว่าตัวเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชันเสียอีก แถมบางแห่งขอดู Bank statement เองด้วย ทำไมเหรอคะ ก็เพราะการที่วิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยจะยอมรับนักศึกษาที่มาสมัครเรียนเพื่อให้ได้วีซ่าประเภทนี้ เขาจะมีเกณฑ์เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้..

  1. สามารถที่จะดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดได้จริง หรือ ต้องมีสปอนเซอร์
  2. ต้องการมาพำนักในประเทศออสเตรเลียชั่วคราว หรือ มีวัตถุประสงค์เพื่อมาเรียน ไม่มีประเด็นอื่นแอบแฝง
  3. มีทักษะความรู้ด้านภาษาอังกฤษที่เหมาะสมตามคอร์สที่เรียน
  4. มีประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ (OSHC)
  5. มีสุขภาพร่างกายที่ดีตามเกณฑ์ที่กำหนด

ถ้าในการสมัครเรียนเราตอบคำถามสองข้อแรกหลัก ๆ ไม่ได้ วิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยนั้นสามารถปฎิเสธที่จะรับเด็กนักเรียนเข้าเรียนได้คะ บางแห่งเข้มงวดถึงขนาดมีการสัมภาษณ์เลยก็มี

"ทำไมเข้มจัง.."

ก็เพราะวีซ่าประเภทนี้มีไว้ลองใจวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยคะ เพราะเขาจะมีการเก็บสถิติว่า วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ได้มีการอนุมัติวีซ่าประเภทนี้ไปแล้วกี่คน และเด็กเรียนจริง ๆ โดยไม่เปลี่ยนคอร์สเลยกี่คน ถ้ามีเด็กยกเลิกเยอะ ปีต่อไปวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยนั้น ๆ จะถูกลดเกรดลงจากทางอิมมิเกรชันทันทีนะสิคะ หากมองง่าย ๆ ก็เหมือนการเปลี่ยนให้ทางสถาบันการศึกษาเป็นผู้คัดกรองนักเรียนเอง

เพราะฉะนั้นหลาย ๆ วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องเข้มงวดเพราะเป็นเรื่องของชื่อเสียงของเขา ซึ่งมันก็น่าเห็นใจนะพี่ว่า

 

ระยะเวลาปกติในการดำเนินการขอวีซ่าสำหรับนักเรียน
(The table below shows the processing time service standards for student visa applications.)
20150528-svp-processing-time

ข้อมูลสถิติเปรียบเทียบการอนุมัติวีซ่านักเรียนประเภทต่าง ๆ ในช่วง 3 เดือน (1 ต.ค. - 31 ธ.ค. 2014) เทียบกับระยะเวลาก่อนหน้า
20150528-svp-grantrates-1oct14-31dec14
ที่มา: immi.gov.au

 

เปลี่ยนคอร์สเรียนที่มาด้วยวีซ่า SVP !?

ถ้าเกิดมาด้วยวีซ่า SVP แล้ว พอมาถึงออสเตรเลีย เกิดคิดได้ว่า.. “คอร์สที่ลงมาเราไม่ได้อยากเรียนเลยจริง ๆ เราสามารถยกเลิกคอร์ส เปลี่ยนคอร์สได้ไหม?”

คำตอบคือ ไม่มีกฎหมายใด ๆ ที่ห้ามไม่ให้น้องเปลี่ยนคอร์สหรอกคะ แต่ว่า... การเปลี่ยนคอร์สนั้นจะกระทำได้ถ้าเราลงเรียนไปแล้วเกิน 6 เดือน หรือ 1 เทอม สำหรับคอร์สหลัก เช่น ถ้าลงเรียนภาษา บวกกับ Diploma บวกกับ Advanced Diploma น้องก็ควรที่จะเรียนจบอย่างน้อย 1 เทอมของ Advanced Diploma เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิทยาลัยนั้น ๆ เป็นหลัก ว่าเขาจะมีหลักการแบบไหนในการอนุญาตให้เด็กยกเลิกคอร์สได้ ซึ่งบางแห่งอาจจะยืดหยุ่นกว่านี้

แต่ว่าปัญหาไม่หมดแค่นั้นนะคะ หลังจากยกเลิกคอร์สแล้ว เราจะไปลงเรียนอะไรก็ได้ใช่ไหม คำตอบคือ ได้ แต่ควรจะเรียนคอร์สในระดับที่เท่าเดิมหรือสูงกว่า ไม่ใช่ระดับที่ต่ำกว่าเดิมคะ เพราะทางอิมมิเกรชันมีสิทธิ์ที่จะพิจารณายกเลิกวีซ่าของน้องได้  เพราะถ้าเขาเชื่อว่าน้องแค่ต้องการได้วีซ่า SVP เพื่อเข้าประเทศง่าย ๆ แต่ไม่ได้มาเพื่อเรียนจริงๆ ถ้าเขาเชื่อแบบนั้นแล้วหละก็ เขายกเลิกวีซ่าได้คะ และที่ผ่านมา ทางอิมมิเกรชันก็ทำไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ เป็นที่น่าเศร้าใจ ประเทศเราติดหนึ่งใน TOP 5 ที่ถูกยกเลิกวีซ่าประเภทนี้หลังจากเด็กยกเลิกคอร์ส ปีที่แล้วเราถูกยกเลิกวีซ่าแบบนี้ถึง 400 คนด้วยกัน

 

โดยสรุปแล้ว..

การได้วีซ่า SVP เป็นการได้วีซ่าแบบเร็วและง่าย ๆ ก็จริง เพื่อขจัดปัญหาในกรณีที่น้องไม่อยากจะแสดง Bank Statement หรือไม่มี Sponsor ที่ต้องยื่นให้กับทางอิมมิเกรชัน แต่มันก็ไม่ได้แน่นอนว่าเราจะไม่ได้ใช้ เพราะว่าถ้าอิมมิเกรชันหรือสถาบันการศึกษาอยากทราบถึงการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเรียนของเราเอง เราก็ต้องหาข้อมูลตรงนี้ยื่นให้เขาอยู่ดี

ข้อดีของมันจึงคือ การรับประกันว่าเมื่อเราได้ CoE หรือ ใบตอบรับจากสถาบันการศึกษาที่มี SVP แล้วจะทำให้ได้วีซ่าค่อนข้างชัวร์ ซึ่งก็ดีกว่าการที่ถูกอิมมิเกรชันปฎิเสธวีซ่าของเราเองโดยตรง และเมื่อเราได้เข้าเรียนด้วยวีซ่า SVP แล้ว มันก็ต้องสมเหตุสมผลกับการมาเป็นนักเรียนที่ออสเตรเลียด้วย เมื่อเราถือวีซ่านักเรียน หน้าที่หลักของเราก็คือต้องเรียน สำหรับการอนุญาตทำงาน ก็เป็นข้อดี ที่ทำให้เราได้แบ่งเบาภาระกับที่บ้าน และสามารถหางานทำให้ได้เงินและประสบการณ์ไปด้วย อันนี้พี่เห็นด้วย แต่ถ้าต้องการเอาวีซ่านักเรียนมาบังหน้า เพื่อจะไปทำอย่างอื่นแทน พี่ว่ามันก็ผิดวัตถุประสงค์ของวีซ่าจริง ๆ นั่นแหละ

ไหนๆ ก็มาเรียนถึงออสเตรเลียแล้ว เราก็ควรมีอะไรติดขาติดแข้งกันไปบ้างนะพี่ว่า ไม่ใช่มาอยู่ออสเตรเลียกันคนละหลายๆ  ปี ภาษาไทยก็เริ่มไม่ได้ ภาษาอังกฤษก็ล่อแล่ แบบนี้การมาอยู่ต่างประเทศของเราจะได้ประโยชน์สูงสุดอย่างไร อีกอย่างภาษาอังกฤษตอนนี้ถือว่าเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นสำหรับคนไทยไปแล้วด้วย เพราะอีกแค่ปีเดียวเราก็เข้าสู่ยุค AEC แล้ว เพราะฉะนั้น ไหน ๆ ได้มาอยู่เมืองที่เขาใช้ภาษาอังกฤษโดยตรงแล้ว เราก็ควรจะฝึกและใช้จนให้มีทักษะ จะไม่ดีกว่าเหรอคะ เราจะได้ประโยชน์สูงสุดกับการมาอยู่ต่างประเทศด้วย เมื่อมาเรียนก็ควรตั้งใจเรียนจะดีกว่าคะ

 

หมายเหตุ: บทความนี้เป็นประสบการณ์และความรู้โดยตรงจากผู้เขียน ทั้งนี้ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณและหาข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจ

 

ข้อมูลอ้างอิง:
immi.gov.au - "Streamlined student visa processing"
immi.gov.au - "Student visa assessment levels"

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 29 พ.ค. 2015
Penny

Migration Agent Registration Number (MARN): 0317611

สอบถามข้อมูลด้านการศึกษาได้ที่.. info.edu@mabrisbane.com