MaBris Talk: คุณกุ้ง ธรรมจิต สาธิตสรรค์

เผยแพร่เมื่อ 28 เม.ย. 2014 ผู้เขียน

IMG 0617-horzประวัติส่วนตัวชื่อ ธรรมจิต สาธิตสรรค์ ชื่นเล่น "กุ้ง" ค่ะ แต่ชื่อที่คนที่นี่เรียกคือ "Tammy"

อุปนิสัยคือ เป็นคนชอบการขาย พูดคุย พบปะสังสรรค์ ขยัน อดทนและสู้ชีวิตคะ

 

จบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

จบปริญญาโท สาขาการตลาดที่ International University at Barbican UK ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

 

ช่วงที่เรียนที่อังกฤษเรื่มแรกก็ทำงานเป็นเด็กเสริฟ์ค่ะ แต่เนื่องจากช่วงนั้นภาษาอังกฤษยังไม่แข็งแรง ก็เลยมาเรียนรู้งานในครัวเป็นคนทำ Entrée และก็สนใจมาทำกาแฟ (ฺBarista) ที่ Illy Coffee สุดท้ายก็สมัครเป็น Bartendy อยู่ในคลับซึ่งเป็นรายได้เสริมหลังเลิกเรียน เนื่องจากกุ้งเป็นคนที่ต้องทำอะไรอยู่ตลอดเวลาประกอบกับค่าใช้จ่ายในอังกฤษค่อนข้างสูง กุ้งก็ได้สนใจทำการค้าออนไลน์ด้วย โดยใช้ช่องทางการตลาดของ Ebay เป็นสื่อในการติดต่อลูกค้า ขายกางเกงยีนส์ Diesel ซึ่งในช่วงนั้น Ebay กำลังมีชื่อเสียงเรื่องสินค้าออนไลน์ ผลที่ได้รับคือ ขายดีมากเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้หลักและช่วยจ่ายค่าเช่าบ้านและค่าเทอมในช่วงที่กุ้งอาศัยอยู่ที่อังกฤษ 5 ปีได้เลยทีเดียว (2001-2006) และนี่ก็เป็นประสบการณ์ในการใช้ชีวิตครั้งแรกในต่างประเทศของกุ้งค่ะ

ไม่ทราบว่าน้องกุ้งได้งานในบริสเบนได้อย่างไรค่ะ?

จริงๆ แล้วตั้งใจอยากทำงานด้านการตลาดค่ะ ซึ่งกุ้งใช้วิธีสมัครงานทางอินเตอร์เนตโดยเข้าไปที่ www.seek.com.au โดยช่วงนั้นกุ้งกลับไปอยู่ที่เมืองไทยก็เลยส่งใบสมัครไปหลายๆ บริษัทค่ะ ซึ่งบริษัทที่ติดต่อกลับมาก็เป็นงานในแวดวงการขายซะเป็นส่วนใหญ่

ทำไมถึงมาอยู่ที่บริสเบนคะและมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร?

กุ้งแต่งงานและก็ตามสามีมาอยู่ที่บริสเบนค่ะ ซึ่งกุ้งได้เดินทางเข้ามาอยู่ในปี 2009

อยากให้เล่าถึงประสบการณ์ การทำงานครั้งแรกที่บริสเบนด้วยค่ะ?

สำหรับงานที่แรกที่สมัครและก็ได้เลย คือ Thai Foot Spa โดยกุ้งทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ค่ะ ส่วนเวลาหลังเลิกงานกุ้งยังทำงานเสริมนั่นคือ เป็นพนักงานขายและแนะนำน้าหอม ซึ่งส่วนมากจะรับงานในช่วงวันหยุดถือว่าเป็นรายได้พิเศษที่ทำให้เราได้เงินมาไว้เป็นค่าใช้จ่ายได้อย่างดีทีเดียวค่ะ โดยงานนี้เราต้องสมัครผ่าน Agent ของบริษัทน้ำหอม เค้าก็จะมีงานให้เลือกหลายบริษัทและก็จะส่งเราไปบริษัทที่มีงานเหมาะกับเรา ซึ่งกุ้งอยากจะแนะนำน้องๆ นักศึกษาที่มาอยู่ใหม่เลยค่ะว่า ให้ลองสมัครทำงานเป็นพนักงานส่งเสริมการขายในด้านขายน้ำหอมนี้ดู เพราะตัวงานไม่ได้มีความยากลำบากมากมายและรายได้ก็ค่อนข้างใช้ได้ ที่สำคัญคือ การทำงานมีให้เลือกทำหลายช่วงเวลา ซึ่งเหมาะกับการใช้เวลาว่างหลังจากเรียนให้เกิดประโยชน์ได้ค่ะ งานที่สอง คือโชคดีมากที่สมัครไปที่ห้าง David Jones ได้รับหน้าที่เป็นพนักงานขาย บัตรเครดิต (David Jones American Express Card) ซึ่งงานที่นี่ล่ะค่ะที่ทำให้กุ้งได้รู้จักกับพี่รี่ Fashion Editor ของ MaBrisbane.com เพราะพี่รี่เป็นพนักงานขายสินค้าแบรน์เนมอยู่ที่นั่นค่ะ กุ้งทำงานอยู่ที่ David Jones อยู่ประมาณปีหนึ่งได้ จนมองเห็นหนทางว่า น่าจะเริ่มมีการขยับขยายหน้าที่การงานของเราให้มากขึ้น เพราะมีความสนใจงานทางด้าน Retail อยู่แล้ว ก็ได้ขอคำแนะนำจากพี่รี่บ้างว่าควรจะทำอย่างไร แต่ช่วงที่กุ้งทำงานใน David Jones ก็ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลยทีเดียว เพราะทำให้เราได้เรียนรู้และพบปะผู้คนจำนวนมาก กุ้งคิดว่าเมื่อเราพบคนมากขึ้น โอกาสเราก็มีมากขึ้นด้วย งานที่สาม Swarovski (พนักงานขาย) งานนี้เป็นงานแรกเกี่ยวกับวงการจิวเวอร์รี่ของกุ้งเลย ซึ่งกุ้งต้องยอมรับว่าการทำงานที่ Swarovski เป็นใบเบิกทางให้กุ้งได้เข้าสู่วงการ Retail อย่างแท้จริง เพราะตัวสินค้านั่นค่อนข้างมีชื่อเสียงด้วยตัวเองอยู่แล้ว ที่สำคัญคือเวลามีลูกค้าเข้ามาพร้อมกันเยอะๆ เราจะได้เรียนรู้ถึงแนวทางในการต้อนรับลูกค้าได้อย่างถูกต้อง มาถึงงานปัจจุบัน Michael Hill (Sales Professional) สืบเนื่องจากช่วงนั้นทาง Michael Hill กำลังต้องการเปิดการตลาดให้เป็นที่รู้จักในตัวเมืองบริสเบนมากยิ่งขึ้น กุ้งก็เลยลองสมัครดูและก็ปรากฎว่าได้งานนี้ซึ่งถือว่าเป็นงาน Full time งานแรกในการใช้ชีวิตที่บริสเบนเลยค่ะ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ Michael Hill มาปีกว่า ถือว่าลงตัวมากค่ะ เพราะชอบการขายและได้พบปะ รู้จักกับคนไทยที่อยู่ในบริสเบน

IMG 0620-horz

น้องกุ้งมีคำแนะนำอย่างไรให้กับน้องๆ หรือผู้ที่สนใจทำงานทางด้านวงการ Retail และมีเคล็ดลับอย่างไรบ้างคะ?

ง่ายๆ เลยนะคะก็คือ ถ้าเรารู้ว่าเราสนใจงานด้าน Retail เราก็ต้องมีใจรักทางด้านการขายและลูกค้าสัมพันธ์ เพราะเป็นจุดสำคัญสำหรับงาน งานประเภทนี้ ทางบริษัทจะเน้นการคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมในตำแหน่งนั้นๆ โดยจะกำหนดคุณสมบัติต่างๆ ที่บริษัทต้องการไว้อยู่แล้วในเอกสารประกาศรับสมัครงาน น้องๆ ต้องอ่านรายละเอียดให้ดีว่า “ทางบริษัทต้องการบุคลากรด้านไหน อย่างไร ที่สำคัญคือต้องเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ” โดยที่เราต้องมาทำความรู้จักกับตัวของเราเองก่อนว่าเราเป็นบุคคลประเภทไหน ชอบอะไร และมีความถนัดทางด้านไหน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าชอบสินค้าแนวแฟชั่นก็ให้ไปสมัครงานร้านเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เป็นต้น และที่สำคัญอีกด้านหนึ่งสำหรับงาน Retail ก็คือ “บุคคลิกภาพ” รวมถึงความมั่นใจในตัวเองโดยเฉพาะทางด้านการสื่อสาร เราต้องตอบอย่างมั่นใจและสามารถให้คำแนะนำกับลูกค้าได้เป็นอย่างดีค่ะ ซึ่งสำหรับน้องๆ ที่สนใจงานทางด้านนี้ กุ้งยินดีให้คำปรึกษาได้นะคะ ก็มาพบกับกุ้งได้ที่ร้าน Michael Hill สาขา Queens Plaza ค่ะ

อยากให้พูดถึงอะไรที่เป็นปัจจัยสำคัญและการเตรียมตัวในการสมัครงาน?

ก่อนอื่นต้องมาสำราจตัวเองก่อนว่าเรามีจุดแข็ง จุดอ่อนอย่างไร มีประสบการณ์หรือความชำนาญด้านไหนเป็นพิเศษ เพื่อที่จะเป็นประโยชน์กับเราในการตอบคำถามในด้านนั้นๆ อีกอย่างก็คือให้เตรียมตัวในเรื่องของการสื่อสาร สำคัญมากเวลาสัมภาษณ์งาน ต้องพยายามควบคุมตัวเองให้ได้มากที่สุดอย่าตื่นเต้นจนฟังคำถามไม่รู้เรื่อง ส่วนจุดอ่อนเราก็ต้องค่อยๆ ปรับ และฝึกฝนทักษะในด้านต่างๆ จนเรามั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ "การแต่งกาย" เพราะเป็นจุดสำคัญในการสร้างความประทับใจหรือการพบปะครั้งแรก ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับประเภทของงาน ถ้าผู้ที่จะไปสมัครงานทางด้าน Retail ควรใส่สูทรองเท้าคัชชูหรือส้นสูงพองาม เกล้าผมให้เรียบร้อยแต่งหน้าบางๆ และใส่เครื่องประดับเล็กน้อยแค่นั้นก็ ok แล้วคะ

IMG 0619-horz

ข้อแนะนำน้องๆ ในการหางาน?

การหางานทางออนไลน์น่าจะง่ายที่สุดสำหรับยุคสมัยนี้ แนะนำให้พยายามเข้าไปดูเว็บสมัครงานบ่อยๆ และก็พยายามส่งใบสมัครงานไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งท้อ เพราะน้อยคนนักที่จะได้งานเลยทันทีทันใด ถ้างานไหนที่เราไม่ได้ก็ให้ถือซะว่าเป็นประสบการณ์สำหรับงานต่อไปค่ะ

ปัญหาที่พบบ่อยในการทำงานในวงการ Retail คือ ความผิดพลาดในการทำงานส่วนใหญ่จะทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหายต้องแก้ไขด้วยการบริการให้เค้าพอใจ ยอมรับ และประทับใจ คือเรียกความมั่นใจของลูกค้ากลับคือมานั่นเอง เราต้องพยายามแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และให้ข้อเสนอหรือทางเลือกที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เป็นผู้ฟังที่ดี พยายามเข้าใจถึงปัญหา แล้วก็ทำให้สำเร็จ และเร็วที่สุดโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของทั้งบริษัทและการยอมรับจากลูกค้า

สุดท้าย ขอให้ข้อคิดสำหรับน้องๆ รุ่นใหม่ๆ ที่พึ่งเรียนจบและกำลังหางานทำ ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว ก็ไม่ต้องท้อนะคะ เพราะนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตในการทำงานค่ะ เศรษฐกิจตอนนี้หางานประจำยากและก็คู่แข่งก็เยอะมาก ไหนจะคนจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน รวมถึงคนออสเตรเลียเองด้วย ที่สำคัญคนไทยขี้กลัว ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ เราต้องปรับปรุงและเสริมสร้างความมั่นใจของตัวเราให้มีมากขึ้น กุ้งอยากจะเน้นและแนะนำน้องๆ อีกครั้งค่ะว่า ให้สมัครงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าไม่ได้งานอย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ กุ้งมั่นใจว่าคนไทยเรามีความสามารถ ขยันสู้งานและอดทนไม่แพ้ชาติใดๆ ในโลกค่ะ

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 15 ก.ย. 2014
Miss Brisbane

Fashion Editor
MaBrisbane.com

 

เวปไซต์: www.facebook.com/serena.denis.1