7 ข้อคิดง่ายๆ สู่รักแท้

เผยแพร่เมื่อ 07 ก.พ. 2014 ผู้เขียน

พึ่งผ่านไปหมาดๆกับตรุษจีนปีม้า หวังว่าเพื่อนๆคงจะสนุกสนานกับเทศกาลตรุษจีนในบริสเบนไม่มากก็น้อยนะคะ ขอให้ทุกคนเฮงๆมีความสุขมากๆตลอดปีนี้

ช่วงนี้นอกจากเทศกาลตรุษจีนแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นกับวันวาเลนไทน์ที่กำลังใกล้เข้ามา ทำให้กุมภานี้ถือได้ว่าเป็นเดือนแห่งความรักหวานแหววของของคู่รักหลายๆคู่ แต่สำหรับคนโสดก็โอดครวญกันไม่น้อย (อยากกินชอคโกแลตกะเค้าบ้างอ่ะ) ก็เลยถือโอกาสนี้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความรักจากมุมมองของคนธรรมดาๆคนหนึ่งที่ถูกความรักเล่นงานมาพอสมควร โดยหวังว่าจะได้เป็นอีกหนึ่งข้อคิดให้แก่เพื่อนๆนะคะ

 

คนดีที่รักเราน้อย กับคนไม่ดีที่รักเราม้ากมาก เลือกใครดี?

ก็ต้องเลือกคนที่รักเราม้ากมากสิ จะได้ตามใจเราเอาอกเอาใจ เค้าไม่ดีกับคนอื่นแต่เค้าดีกับเราก็พอละ จริงหรือเปล่า? คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม ไม่มีจิตสำนึกในความดี แม้แต่พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณฝั่งตัวเองก็ไม่ให้เกียรตืไม่ให้ความเคารพ นับประสาอะไรกับครอบครัวพ่อแม่ญาติพี่น้องของเรา เมื่อญาติเพื่อนของเราไม่ถูกกับคนรักที่ไม่ดีของเรา เราก็จะเสียความสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นไปในไม่ช้า คนไม่ดีทำเรื่องไม่ดีก็จะพาเราชักชวนไปในทางที่ไม่ดี ถึงเราไม่ตามแต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นแฟนแล้วก็อาจจะมีส่วนพัวพันพลอยซวยไปด้วย

0702-take-care2

คนไม่ดีเวลารักคนอื่นเป็นยังไง? ก็จะมีแต่ความเห็นแก่ตัว อยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ทำทุกวิถีทางที่จะได้มา ไม่ทำต่อหน้าก็ทำลับหลัง แอบค้นยุ่งเรื่องส่วนตัว คอยแต่จะจ้องจับผิด เพราะตัวเองเป็นคนไม่ดีจึงคิดระแวงว่าคนอื่นก็ทำเหมือนกัน คนไม่ดีพอหมดรักแล้วเป็นยังไง? จะขอเลิกก็ไม่ให้เลิกทั้งๆที่ตัวเองก็มีคนใหม่ แต่พอคนรักจะจากไป กลับเอาปืนมายิงไม่ยอม แถมไม่ยิงคนเดียวด้วยนะ กลัวเสียเที่ยว ยิงแม่ยายด้วยเลยตามที่มีให้เห็นในข่าวกันประปราย คนไม่ดีแม้เราจะเป็นคนดีทำความดีแทบตายเค้าก็ไม่เห็น แถมยังหาว่าเรายุ่งอยากทำเองทำไม คนดีแม้จะรักเราไม่มาก แต่โดยพื้นฐานที่เค้ามีจิดใจดีอยู่แล้ว เค้าย่อมรู้ว่าอะไรควรไม่ควร สิ่งไหนทำแล้วจะทำให้คนรักไม่สบายใจ สิ่งไหนเป็นสิ่งที่คนรักที่ดีควรจะเป็น คนดีเขาเป็นหมด แม้เมื่อเวลาผ่านไป ความรักได้จางหาย คนดีก็มีความรับผิดชอบ รู้จักอยู่ในศีลธรรม ไม่ทำผิดประเวณีลูกผัวเมืยชาวบ้าน ดูแลคนรักของตนบนพื้นฐานของหลักความดี แต่ถ้าใครที่โชคดีได้เจอคนดีที่รักเรามากๆด้วยแล้วละก็.. อย่าปล่อยให้หลุดมือเชียวนะ!

0702-take-care

คนที่รักเราดูยังไง?

จริงก็ไม่ยากเลย ถ้าเราถามตัวเองว่าเค้าเป็นห่วงความรู้สึกของเรารึเปล่า..? หัวใจหลักมีอยู่แค่นี้จริงๆ เวลาเค้าจะทำอะไรพูดอะไร เค้ามักจะแคร์กับอารมณ์สิ่งที่เราจะรู้สึก ง่ายๆเลยเวลาเดินกันไปสองคนเค้าถือของให้เราไหม คอยหันมาดูไหมว่าเราเดินตามทันรึเปล่า ไม่ใช่แบบว่าห่างกันไปสองไฟแดงละ อีกเรื่องที่ดูง่ายมากคือเรื่องหึงหวง หากเค้าทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องหึงและหวงโดยที่เค้ารู้แต่ก็ไม่ทำอะไรเลย อย่างเช่น หยอกล้อกับคนอื่นกระหนุงกระหนิงต่อหน้า หรือจะเป็นส่งเมสเสสเล่นกับคนอื่น โดยที่เราไม่พอใจและเค้าก็รับทราบแต่ไม่คิดจะทำอะไร อย่างนี้ก็เปิดโอกาสให้ตัวเองเพื่ออนาคตที่ดีกว่าเถอะค่ะ..

ฝันได้ แต่อย่าเอามาเป็นพื้นฐานของความจริง

เชื่อว่าเกือบทุกคนโตมาด้วยหนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์ที่แฝงเรื่องราวของความรักไว้บ้างไม่มากก็น้อย มีคนไม่น้อยเลยที่ชื่นชมหลงไหลในตัวละครต่างๆเหล่านั้น ผู้หญิงก็ถูกสิ่งพวกนี้ชี้นำถึงเจ้าชายขี่ม้าขาวที่จะเป็นรักแรกและรักเดียวของเราไปจนตาย ผู้ชายก็อิ่มเอมใจกับบทตัวละครหลักที่เป็นผู้ชายธรรมดาๆไม่ได้ดีเด่อะไรแต่กลับมีผู้หญิงน่ารักๆสวยๆมีสเน่ห์มากมายมารายล้อม หลายคนก็นำสิ่งเหล่านี้มาเป็นบรรทัดฐานของความจริง มันเลยเกิดสำนวนที่ว่า หมาเห่าเครื่องบิน หรือ หมาวัดหมายปองดอกฟ้า ที่หนักกว่านั้นคือคนที่มีคนรักอยู่ และได้ตีกรอบให้แก่แฟนตัวเองไปแล้วว่าต้องเป็นแบบสิ่งที่ตัวเองชอบ ที่ตัวเองใฝ่ฝัน ทำให้เรามองข้ามสิ่งที่อยู่ตรงหน้าและมองเห็นความไม่เพอเฟกค์ซึ่งเราเองน่ะแหละที่เป็นคนสร้างภาพลวงตาเหล่านั้นขึ้น มันไม่ใช่สิ่งที่ผิดหรอกที่เราจะฝันและหลงใหลตัวละครเหล่านั้น แต่เราต้องมีสตินึกรู้อยู่เสมอว่าเราคบกับคนที่มีเลือดเนื้อและหัวใจ ไม่ใช่บุคคลทีเป็นเพียงจินตนาการ

คนนะไม่ใช่แม่กุญแจ

0702-not-a-keyทำไมถึงบอกว่าคนไม่ใช่แม่กุญแจ เพราะว่าแม่กุญแจมันถูกสร้างมาเพื่อกุญแจเพียงดอกเดียว หากคุณคิดจะหาลูกกุญแจของคุณให้เจอ จะต้องลองกี่ครั้ง? ที่เขียนอย่างนี้ไม่ใช่จะแนะนำว่าให้หยุดหา หรือทนอยู่กับคนที่ทำให้เราไม่มีความสุข แต่อยากจะบอกว่า การจะหาคนที่จะเข้ากับเราได้ร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นมันยากนัก เพราะฉนั้นหากคุณคิดว่าคุณเจอแล้วก็อย่าปล่อยให้หลุดไปนะคะ สำหรับคนที่ยังไม่เจอ ได้เจอสักเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์นี่ก็ถือว่าเยอะแล้วล่ะ แทนที่เราจะโฟกัสไปในสิ่งที่เค้าขาด ควรโฟกัสไปในสิ่งที่เราต้องการดีกว่า ถ้าคนๆนั้นมีล่ะก็ เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญใช่มั้ยคะ ข้อนี้ให้ใช้เป็นกำลังใจเวลาที่เรายังไม่เจอใครหรือเพิ่งจบความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนะคะ ไม่ใช่ว่าคบคนเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์อยู่ แล้ววันนึงเจอคนแปดสิบแล้วจะทิ้งคนแรกนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนะ

เชื่อในกัตฟีลลิ่ง

ชีวิตเรานั้นสั้นนัก หากคุณรู้สึกแปรบๆ เอ๊ะ! มันไม่ใช่นะ เท่านั้นล่ะค่ะ เตรียมตัวหาคนใหม่ดีกว่า ยิ่งใครที่รู้ว่าคนที่คบอยู่ด้วยตอนนี้ไม่ใช่มากๆ แบบมีเรื่องให้ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน เหมือนพูดกันคนละสปีซี่อยู่บ่อยๆ ลองทบทวนความรู้สึกตัวเองดูอีกครั้ง ยิ่งเวลานานไปยิ่งยืดเยื้อ เราเองก็เสียเวลา เสียใจ เสียอารมณ์ เสียโอกาสที่จะได้เจอคนที่อาจจะใช่มากกว่า ( กลับไปอ่านข้อข้างบนนะ :) )

รักจริงต้องกัดก้อนเกลือกิน?

ถ้าเป็นสมัยนี้อาจจะเปลี่ยนจากเกลือเป็นผงโรยข้าว (ฟุริคาเกะ) แม้หลายๆคนมักจะพูดติดปากอยู่เสมอว่า รักแล้วเรื่องฐานะชั้นวรรณะไม่สำคัญ แต่ในทางปฏิบัติคำกล่าวนี้มีช่องโหว่อยู่มากมาย ใครที่คิดอยากจะมีครอบครัว สร้างครอบครัวใหม่ของตัวเองขึ้นมาควรอย่างยิ่งที่จะคำนึงถึงข้อนี้ หนึ่งตัวเราเองมีภาระหรือไม่ บางคนคิดว่าการแต่งงานเป็นทางออกหนึ่งเพื่อที่จะช่วยให้เราได้ส่งเสียเลี้ยงดูปูเสื่อครอบครัวของเราที่มีอยู่แล้วได้ง่ายขึ้น เมื่อได้รับการเลี้ยงดูจากคนรัก มีทรัพย์สินก็นำส่วนหนึ่งมาแบ่งบริจาคเลี้ยงครอบครัวตนเอง ในกรณีที่คนรักของเราเต็มใจก็ไม่เป็นไร แต่ในกรณีที่ออกแนวบังคับ แม้ฐานะของคนรักและตนไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะดูแลใครได้ แต่เราก็ยังหน้าเลือดบีบบังคับตัวเองและคนรักให้ส่งเงินกลับบ้านไปให้พ่อแม่เราทุกเดือน ไม่ว่าจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และอื่นๆอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้มีแต่จะทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับคนรักย่ำแย่ลงจนในที่สุดก็จะเหลือแต่คำว่า เงิน เท่านั้น อย่างที่สอง คนที่เราจะคบหาด้วยเขามีภาระไหม หากเรารู้อยู่แล้วว่าเขามีหน้าที่ต้องดูแลครอบครัว ญาติพี่น้อง แล้วเราตัดสินใจที่จะคบ เราก็ควรจะทำใจแต่เนิ่นๆเลยว่า สิ่งที่เขาหามาหรือที่จะช่วยกันหาต่อจากนี้ แม้มันจะมาไม่ถึงเราเป็นส่วนใหญ่ ก็ขอให้เข้าใจและช่วยกันพยุงความสัมพันธ์นี้ไป เพราะบางคนอาจจะเกิดอาการงอน น้อยใจ ขึ้นมา เอ๊ะ ไม่คิดจะให้ฉันบ้างเหรอ หรือ กรณีที่คนรักของเราเคยดูแลเลี้ยงดูปูเสื่อพ่อแม่ญาติอย่างดี แล้วจู่ๆมีเราเข้ามาและดูแลเราแทน นี่ก็อาจจะเป็นต้นตอของความร้าวฉานระหว่างตัวเราและญาติๆของเขาก็เป็นได้ ข้อสุดท้าย เราควรจะคิดเผื่อในอนาคด ว่าจริงอยู่ตอนนี้เราสามารถอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้ แต่หากวันหน้ามีอะไรเกิดขึ้น คนรักของเราก็ควรที่จะสามารถพยุงช่วยเหลือเราให้ผ่านช่วงวิกฤตไปได้ ในทางกลับกันตัวเราเองก็ควรที่จะสามารถพยุงคนรักของเราได้เมื่อเขาประสบกับปัญหา อย่างนี้แหละถึงจะเรียกว่ารักจริงที่อยู่กันยืนยาวในทางปฏิบัติ

รักตัวเองและให้ความสำคัญแก่สิ่งรอบข้าง

0702-get-togetherก่อนที่เราจะคิดรักใคร เราควรที่จะต้องมีสติรักตัวเองให้มากที่สุด รองลงมาก็คือบุพการีผู้มีพระคุณ ญาติและเพื่อน เมื่อเรารู้สึกถึงความรักที่เต็มของเราอยู่แล้ว เราก็ไม่ต้องกลัวที่จะอ้าแขนรับความรักแบบแฟน ให้ความรักแบบนี้เข้ามาเป็นส่วนเสริมให้ชีวิตของคุณมีสีสัน แต่อย่าให้มันเข้ามากลายเป็นศูนย์กลางความรักทั้งหมดที่มีของคุณ ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้คนไม่น้อยต้องจบชีวิตตนเอง หรือทำอะไรพลั้งพลาดไป เพียงเพราะคิดว่าความรักแบบแฟนเป็นศูนย์กลางของชีวิตเค้า เมื่อมีคนรักก็ต้องให้เวลาแก่อย่างอื่นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้คนรอบข้าง พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อน หรือแม้แต่ให้เวลาแก่ตัวคุณเอง ทำกิจกรรม งานอดิเรกต่างๆ ออกไปพบปะผู้คน ให้ตัวคุณเองได้รับรู้ว่าโลกของคุณนั้นช่างรายล้อมไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ และผู้คนต่างๆมากมาย ไม่อยากให้ยึดติดเอาคนรักของเราเป็นศูนย์กลาง

 

เป็นไงกันบ้างเอ่ย กับข้อคิดเล็กๆน้อยๆในมุมมองความรักแบบพริกขี้หนู ตรงกับใจของใครหลายๆคนหรือเปล่า หรือมันไม่ใช่เร้ย! (ฮ่าๆ) ใครมีมุมมองยังไงก็คอมเม้นกันมาได้นะคะ ขอบคุณคะ..

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 15 ก.ย. 2014