แถลงการณ์การเปลี่ยนแปลง การสมัครขอวีซ่า พลเมือง และอัพเดทอื่น ๆ จากอิมมิเกรชั่น, 7 ธ.ค. 2017

เผยแพร่เมื่อ 21 ธ.ค. 2017 ผู้เขียน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา ทางทีมงาน MaBrisbane ได้รับเกียรติเข้าร่วมงานสัมมนาในฐานะตัวแทนของชุมชนไทยในควีนส์แลนด์ร่วมกับทางอิมมิเกรชั่นฯ หรือ Department of Immigration and Border Protection (DIBP) (ซึ่งเพิ่งได้มีการนำหน่วยงานเข้ามาอยู่ภายใต้ Department of Home Affairs เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2017) จัดการแถลงการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวีซ่า 457, การสอบเป็นพลเมืองออสเตรเลีย, การใช้ระบบออนไลน์ ImmiAccount ในการสมัครขอวีซ่าและติดตาม รวมไปถึงการเตือนภัยนักต้มตุ๋น (scam), และการให้ความช่วยเหลือผู้ขอสมัครวีซ่าอย่างถูกต้อง

 

โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้..

การเพิ่มการรักษาความปลอดภัยคนเข้าออกประเทศ

ณ จุดตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินบริสเบนและเมลเบิร์น ได้มีการนำระบบตรวจสอบลายนิ้วมือเข้ามาใช้ โดยสุ่มตรวจเฉพาะผู้ที่ไม่ได้เป็นพลเมืองออสเตรเลีย ในอนาคตมีการวางแผนที่จะนำมาใช้กับสนามบินอื่น ๆ และจะตรวจผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศทั้งที่เป็นพลเมืองและไม่ใช่พลเมือง โดยจะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อตรวจสอบประวัติจากหน่วยงานต่าง ๆ

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ยกตัวอย่างกรณีผู้ที่ต้องการลักลอบเข้ามาในออสเตรเลียอย่างผิดกฎหมาย และถูกจับได้จากการตรวจลายนิ้วมือ 2 กรณีด้วยกัน

เหตุการณ์แรก เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้โดยสารชาวไทยถูกเจ้าหน้าที่สอบถามว่าเคยเข้ามาในประเทศออสเตรเลียหรือไม่ ผู้โดยสารคนนั้นยืนยันว่าไม่เคย แต่จากการตรวจลายนิ้วมือ ลายนิ้วมือไปตรงกับชื่ออื่น และเลขที่หนังสือเดินทางเล่มอื่น ซึ่งในระบบบอกว่าคน ๆ นี้เคยเข้ามาออสเตรเลียเมื่อปี 2006 และอยู่เกินวีซ่า ถูกนำตัวออกจากประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2016 เมื่อเจ้าหน้าที่สอบสวนต่อ สุดท้ายผู้โดยสารคนนั้นยอมรับว่าเป็นคน ๆ เดียวกัน จึงถูกส่งตัวกลับประเทศไป

อีกกรณีหนึ่ง เป็นการใช้หนังสือเดินทางของพี่(หรือน้อง) ปลอมแปลงตัวตนเพื่อเข้าประเทศ

 

การให้บริการระบบดิจิตอลของ ImmiAccount (Digital Services – IMMIAccount)

การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่และความสามารถในการสมัครวีซ่าของระบบสมัครทางออนไลน์ ImmiAccount ของอิมมิเกรชั่นที่สามารถให้บุคคลทั่วไปและธุรกิจได้ทำการสมัคร ติดตามผล แก้ไข และชำระเงินสำหรับวีซ่าต่าง ๆ และการสมัครเป็นพลเมืองได้ รวมไปถึงเข้าใช้บริการต่าง ๆ ของอิมมิเกรชั่นอีกด้วย

ฟีเจอร์ใหม่ของ ImmiAccount สามารถให้ผู้ใช้เข้าไปอัพเดทรายละเอียดหนังสือเดินทาง, รายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลที่สามที่ช่วยสมัครหรือดูแลเคสของเรา (third party representative), และแจ้งทางอิมมิเกรชั่นในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับตัวเราในขณะที่ใบสมัครกำลังอยู่ในช่วงพิจารณา

ขณะนี้ทางอิมมิเกรชั่นได้กำลังพัฒนาระบบการจองเวลานัดเข้าพบทางออนไลน์ ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้ผู้สมัครเป็นพลเมืองสามารถเข้าไปเลื่อนวันสอบ (citizenship test) และวันนัดพบสำหรับการตรวจเอกสารระบุตัวตน (identity verification appointment) ได้
 
ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2017 การสมัครวีซ่า protection แบบออนไลน์ได้เปิดให้วีซ่าดังต่อไปนี้:
  • Permanent Protection visas
  • Initial and subsequent applications for Safe Haven Enterprise Visas
  • Initial and subsequent applications for Temporary Protection visas

 

การหลอกลวงเกี่ยวกับการย้ายถิ่น (Migration Fraud and Scams)

ทางอิมมิเกรชั่นได้รับการติดต่อเข้ามามากมาย สอบถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่มีคนได้รับข้อเสนอในการได้รับวีซ่า และได้มีการยื่นเรื่องขอวีซ่าเป็นชื่อของตนเองโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รับรู้มาก่อน

การหลอกลวง (scam) เป็นการกระทำของพวกมิจฉาชีพที่ตั้งใจทำให้ผู้เสียหายเข้าใจผิด มีจุดประสงค์เพื่อต้องการขโมยเงิน อสังหาริมทรัพย์ ข้อมูลส่วนตัว หรือสิ่งมีค่าอื่น ๆ อย่างไม่ถูกต้อง การหลอกลวงเกิดขึ้นได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นไปรษณีย์ อีเมล์ โทรศัพท์ หรืออินเตอร์เน็ต บางครั้งก็ดูออกได้ง่าย แต่บางทีก็ทำได้สมจริงมาก โดยมาในหลายรูปแบบ เช่น VEVO ปลอม, เดทออนไลน์, การเสนองาน และอื่น ๆ

รายละเอียด: http://www.homeaffairs.gov.au/Trav/Visa/migration-fraud-and-scams

 

ETA หรือชื่อเต็มว่า Electronic Travel Authority ไม่ใช่วีซ่าทำงาน (working visa) และผู้ถือวีซ่าประเภทนี้ไม่สามารถทำงานในออสเตรเลียได้ ผู้ที่ถือวีซ่า ETA สามารถประกอบกิจบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น เข้าร่วมการประชุมหรือสัมมนา

หากมีใครบอกคุณว่าคุณสามารถทำงานได้ด้วยวีซ่า ETA พวกเขากำลังหลอกคุณอยู่ ทางสำนักงานอิมมิเกรชั่นและปกป้องชายแดน (border protection) ตระหนักดีว่ามีบุคคลหรือเอเจ้นท์ที่กำลังพยายามจัดหาวีซ่าและเที่ยวบินให้กับคนที่จะมาทำงานอย่างผิดกฎหมายในออสเตรเลีย

บุคคลที่เดินทางมายังประเทศออสเตรเลียเพื่อที่จะทำงานโดยถือวีซ่า ETA มีความเสี่ยงที่จะถูกนำตัวออกจากเครื่องบิน, กักตัว, และถูกส่งกลับเมื่อมาถึงออสเตรเลีย

หากถูกจับได้ในออสเตรเลียว่าทำงานอย่างผิดกฎหมาย บุคคลนั้นมีความเสียงที่จะถูกกักตัวและส่งตัวกลับออกนอกประเทศ ในกรณีนี้ วีซ่าอาจถูกยกเลิก และบุคคคลนั้นอาจโดนห้ามเข้าประเทศออสเตรเลียอีกเป็นเวลา 3 ปี พร้อมต้องจ่ายค่าเสียหายในการกักกันตัวและการส่งตัวกลับ ผลตามมาของการเข้ามาทำงานในออสเตรเลียอย่างผิดกฎหมายด้วยวีซ่า ETA ร้ายแรงมาก กองกำลังชายแดนออสเตรเลีย (Australian Border Force: ABF) ตรวจจับบุคคลที่เข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย ณ จุดตรวจคนเข้าเมือง และค้นหาผู้ที่ทำงานอย่างผิดกฎหมายในขณะที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย

ในปี 2016 กองกำลังชายแดนออสเตรเลีย (ABF) พบและกักตัวแรงงานผิดกฎหมายในงานเกษตร งานบริการ งานบันเทิง ฟาร์มสัตว์ปีก งานรักษาความปลอดภัย และช่างเสริมความงาม

นอกเหนือจากการโดนยกเลิกวีซ่าและห้ามเข้าออสเตรเลียเป็นเวลา 3 ปีแล้ว คุณยังเสี่ยงกับการต้องตกเป็นแรงงานทาส (รวมไปถึงทาสทางเพศ) แรงงานผิดกฎหมายส่วนใหญ่จะถูกกดค่าแรงหรือบางทีก็ไม่ได้รับค่าจ้างเลย คุณอาจจะกลับบ้านด้วยเงินที่น้อยกว่าตอนมาเสียอีก

รายละเอียด: http://www.homeaffairs.gov.au/FAQs/Pages/taskforce-cadena-target-specific-industries-or-visa-types.aspx

 

การให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐาน (Immigration Assistance)

การให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐาน ได้ถูกให้คำจำกัดความใต้ section 276 ใน Migration Act 1958 (the Act) ว่า เกิดขึ้นเมื่อบุคคลหนึ่งได้ใช้ความรู้ หรือประสบการณ์ ในการทำเรื่องขอย้ายถิ่นฐาน (โดยไม่จำเป็นว่าจะมีใบรับรองอย่างเป็นทางการ [qualifications] หรือไม่) เพื่อ:
  • ช่วยเตรียมเอกสารในการขอวีซ่า
  • ให้คำแนะนำแก่ผู้สมัครเกี่ยวกับการขอสมัครของเขา
  • ช่วยเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสปอนเซอร์ของผู้สมัครวีซ่า หรือให้คำแนะนำแก่สปอนเซอร์
  • เตรียมความพร้อมก่อนการดำเนินคดีขั้นศาล หรือเป็นตัวแทน นอกจากว่าคุณจะเป็นทนายความ (prepare for proceedings, before a court or a merits review tribunal (such as the Administrative Appeals Tribunals), or represent someone at those proceedings, unless you are a lawyer)
  • ช่วยเหลือ หรือช่วยเตรียมคำร้องขอต่อรัฐมนตรีภายใต้พระราชบัญญัติเพื่อช่วยเหลือผู้สมัครวีซ่า (help, or help to prepare, a request to the Minister to exercise certain powers under the Act in relation to a visa applicant)
เจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นไม่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานได้ เนื่องจากเป็นการผิดจรรยาบรรณ ผู้สมัครจะต้องเป็นคนตัดสินใจว่าวีซ่าประเภทไหนมีความเหมาะสมแก่ตัวเอง ทางเจ้าหน้าที่อาจจะให้ความช่วยเหลือได้ในการ:
  • หานักแปลเอกสารหรือล่ามให้ (translation, or interpretation services)
  • แนะนำให้ผู้สมัครต้องสมัครวีซ่า
  • ถ่ายทอดข้อมูลจากบุคคลที่สามถึงผู้สมัคร โดยไม่ออกความคิดเห็น หรือให้คำอธิบายใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูลนั้น ๆ

รายละเอียด: http://www.homeaffairs.gov.au/Trav/Visa/Usin/Getting-help-to-apply-for-a-visa

 

การให้ความช่วยเหลือในการขอย้ายถิ่นฐาน

ภายใต้ section 280 ของ the Act กล่าวว่า บุคคลที่ไม่ใช่ registered migration agent (เอเจ้นท์ที่ช่วยเหลือเรื่องการขอย้ายถิ่นฐานที่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย) ไม่สามารถให้การช่วยเหลือในการขอย้ายถิ่นฐานได้ นอกจากว่าจะมีข้อยกเว้นอื่น รวมไปถึงกรณีที่ไม่มีค่าจ้างด้วย

บุคคลยกเว้นข้างล่างนี้สามารถให้ความช่วยเหลือคุณได้ หากพวกเขาไม่ได้คิดค่าจ้าง:

  • คู่ครอง, พ่อแม่, พี่, น้อง, บุตร, หรือบุตรบุญธรรม
  • ผู้สปอนเซอร์และ nominators
  • สมาชิกรัฐสภาและเจ้าหน้าที่ของพวกเขา
  • เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ย้ายถิ่นฐาน
  • สมาชิกของคณะทูต, กงสุล, หรือองค์การระหว่างประเทศ
ผู้ที่ช่วยคุณจะต้องใช้ฟอร์ม  Form 956 – Advice by a migration agent/exempt person of providing immigration assistance (295KB PDF) ในการแจ้งให้อิมมิเกรชั่นทราบว่าเขาได้ทำหน้าที่แทนคุณ

รายละเอียด:

 

การให้ความช่วยเหลือในการย้ายถิ่นฐานโดยที่ไม่ได้เป็น registered migration agent เป็นการกระทำผิดกฎหมายโดยที่ไม่ต้องการหลักฐานในการตัดสินความผิด

 

กฎหมายการย้ายถิ่นของออสเตรเลียมีความซับซ้อนและยากในการปฏิบัติ จุดประสงค์ของการจดทะเบียนเอเจ้นท์อย่างถูกต้องเป็นการทำให้ Office of the Migration Agents Registration Authority (OMARA):

  • ได้เก็บข้อมูลของ registered migration agent ซึ่งผู้สมัครและคนอื่น ๆ สามารถเข้ามาเชคได้ โดยมีรายละเอียดของเอเจ้นท์ที่โดนระงับหรือได้ถูกแจ้งเตือน
  • ได้มั่นใจว่า registered migration agent มีความรู้ในระดับที่สามารถให้ความช่วยเหลือในเรื่องการย้ายถิ่นฐานได้ ยกตัวอย่างเช่น เอเจ้นท์อาจจะต้องเรียนให้จบคอร์สขั้นตอนการขอย้ายถิ่นฐาน, ผ่านการสอบ, และมีการพัฒนาความเชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง
  • ได้มั่นใจว่า registered migration agent เป็นผู้ที่เหมาะสมในการให้ความช่วยเหลือและมีคุณธรรม
  • ได้แน่ใจว่า registered migration agent เข้าใจวิธีการและขั้นตอนในการย้ายถิ่นฐานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
 

บทลงโทษ

หากบุคคลที่ไม่ได้เป็น registered migration agent ได้ให้การช่วยเหลืออย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจถูกปรับถึง AUD$ 6,600 หากบุคคลนั้นคิดค่าจ้างหรือได้รับค่าตอบแทนในการให้ความช่วยเหลือ หรือทำหน้าที่เป็นตัวแทนผู้สมัคร อาจโดนจำคุกถึง 10 ปี หากบุคคลนั้นแสดงตัวกล่าวอ้างว่าเป็น registered migration agent อาจโดนจำคุกถึง 2 ปี

 

อิมมิเกรชั่นทำงานต่อสู้กับความรุนแรงในครอบครัว

แม้ว่าสำนักงานอิมมิเกรชั่นไม่ได้มีบทบาททางด้านกฎหมายในเรื่องความรุนแรงในครอบครัว แต่อิมมิเกรชั่นทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องผู้สมัครและชุมชนออสเตรเลียโดย:
  • พิจารณาว่าผู้สมัครที่ประสบกับความรุนแรงในครอบครัวมีสิทธิ์ที่จะได้รับวีซ่าถาวร (permanent visa) หรือไม่ (เช่น ผู้สมัครวีซ่าคู่ครอง [partner visa])
  • ปฏิเสธการเข้าประเทศ, ยกเลิกวีซ่า, และ/หรือปฏิเสธการเป็นพลเมือง ต่อผู้สมัครที่มีประวัติอาชญากรรมขั้นรุนแรง หรือผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นภัยร้ายต่อชุมชน
  • ตรวจพบรูปแบบการย้ายถิ่นฐานที่น่าสงสัยว่าจะเป็นการค้ามนุษย์สตรีและเด็ก หรือการล่อลวง

 

อัพเดทเกี่ยวกับการสมัครเป็นพลเมือง (Citizenship Update)

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2017 รัฐบาลออสเตรเลียได้ยื่นเรื่องขอกับ Australian Citizenship Legislation Amendment Bill 2017 ซึ่งได้ถูกเสนอในรัฐสภาเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2017

ผลจากการยื่นครั้งนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกกฎหมาย ทำให้สิทธิ์การยื่นขอเป็นพลเมืองตัวใหม่จะถูกนำมาใช้สำหรับการสมัครตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2018 เป็นต้นไป ข้อกำหนดสำหรับการสมัครเป็นพลเมืองบางส่วนคือ:

  • การเพิ่มระยะเวลาในการอยู่อาศัยในออสเตรเลียของผู้สมัคร ผู้สมัครจะต้องแสดงความเป็นผู้อยู่อาศัยในออสเตรเลียอย่างถาวร (permanent residence) เป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี ก่อนที่จะทำการสมัครเป็นพลเมือง
  • การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ผู้สมัครจะต้องแสดงหลักฐานระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษในระดับ modest ก่อนที่จะสมัครเป็นพลเมือง
  • ปรับเปลี่ยนถ้อยแถลงคุณค่าของออสเตรเลีย(Australian Values Statement) เพื่อยืนยันว่าจะเคารพคุณค่าของออสเตรเลีย และปฏิบัติตามกฎหมายของออสเตรเลีย ให้หนักแน่นขึ้น
  • การปรับข้อสอบการเป็นพลเมืองให้ยากขึ้น
  • ผู้สมัครต้องแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ตัวเองมีต่อชุมชนออสเตรเลีย
  • เปลี่ยนคำปฏิญาณตนให้หนักแน่นและยาวกว่าเดิม สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 16 ปี
ใบสมัครพลเมืองที่ได้รับไปแล้วจะถูกพิจารณาตามข้อกำหนดปัจจุบัน เมื่อเดือนกันยายน 2017, 90% ของการสมัครพลเมืองได้ถูกรับพิจารณาและจัดการเสร็จสิ้นภายใน 14 เดือนนับจากวันที่ส่งใบสมัครจนถึงวันพิธีรับมอบการเป็นพลเมือง

รายละเอียด: http://www.homeaffairs.gov.au/Trav/Citi

 

โปรแกรมวีซ่า 457 – Temporary Skilled Shortage Visa (TSS)

รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ temporary and permanent skilled migration programs เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2017 การเปลี่ยนแปลงนี้รวมไปถึงการยกเลิกวีซ่า 457 และแทนด้วยวีซ่า Temporary Skill Shortage (TSS) ในเดือนมีนาคม 2018

การเปลี่ยนแปลงในช่วงแรกนั้นมีผลต่อรายชื่ออาชีพภายใต้ subclass 457 ซึ่งได้ถูกเปลี่ยนเป็นแบบ Short-term Skilled Occupation List (STSOL) และ Medium and Long-term Strategic Skills List (MLTSSL)

  • 216 อาชีพถูกลบออกจากลิสต์รายชื่อ
  • 59 อาชีพถูกจำกัดมากขึ้น โดยดูจากประสบการณ์ทำงาน พื้นที่ที่จะทำงาน หรืออาชีพที่เฉพาะเจาะจง
  • ความยาวของวีซ่า (visa validity periods) ตัวใหม่จะเริ่มใช้กับวีซ่าที่ออก (visa granted) ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. 2017 เป็นต้นไป
    • วีซ่าสูงสุด 2 ปีสำหรับ Shorth-term List
    • วีซ่าสูงสุด 4 ปีสำหรับ Long-term List
ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2017 จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีก โดยขึ้นอยู่กับกฎหมายใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามดู
  • Tax File Number ของผู้ถือวีซ่า 457 อิมมิเกรชั่นจะเริ่มตรวจสอบข้อมูลกับ ATO เพื่อดูว่าผู้ถือวีซ่าไม่ได้รับค่าจ้างน้อยกว่าที่ระบุไว้
  • อิมมิเกรชั่นจะเผยแพร่รายละเอียดของธุรกิจที่สปอนเซอร์ที่ทำไม่ถูกต้องและได้รับบทลงโทษ

รายละเอียด: http://www.homeaffairs.gov.au/Trav/Visa-1/457-

 

อัพเดท Temporary Parent Visa

เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พ.ค. 2017 รัฐบาลออสเตรเลียได้ยืนยันว่า temporary parent visa หรือวีซ่าตัวใหม่สำหรับออกให้กับพ่อแม่ของผู้ที่ถือ permanent resident visa หรือ citizen เพื่อมาอาศัยอยู่กับลูก จะเริ่มในปี 2017-2018 migration programme year ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการผ่านร่างกฎหมาย โดยวีซ่าตัวนี้สามารถขอได้สูงสุด 5 ปีต่อครั้ง และสามารถต่อได้

 

สอบถามเกี่ยวกับเรื่องวีซ่า ติดต่ออิมมิเกรชั่น General Enquiries Line ที่เบอร์ 131 881

ต้องการความช่วยเหลือด้านภาษา นักแปลหรือล่าม ติดต่อ Translating & Interpreting Service (TIS National) ที่เบอร์ 131 450

 

หมายเหตุ: บทความนี้ได้ใช้ข้อมูลบางส่วนประกอบจาก Department of Home Affairs ซึ่งผู้อ่านสามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติม และข้อมูลต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษได้โดยตรงจากเว็บไซต์
ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 22 ธ.ค. 2017
MaBrisbane

Welcome to The Sunshine State