เริ่มต้นอย่างไร...ถ้าอยากรับสมาชิก 4 ขามาดูแล

เผยแพร่เมื่อ 22 มิ.ย. 2023 ผู้เขียน

      ชีวิตในแต่ละวัน ล้วนเจอความเครียดรอบตัว ไม่ว่าจากการทำงาน การเรียนหรือจะเรื่องส่วนตัว แต่ละคนล้วนมีวิธีจัดการความเครียดที่แตกต่างคน แต่สำหรับบางคน การที่มีสัตว์เลี้ยงสี่ขา รอต้อนรับเราที่บ้าน อยู่เคียงข้างเราในวันที่เราเหนื่อยล้า แถมยังสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากความน่ารักของมัน ทำให้เราเองมีกำลังใจและความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น การต้อนรับสมาชิก 4 ขาอย่างสุนัข หรือแมว สัตว์เลี้ยงยอดนิยม เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายที่สามารถไปหยิบมาเลี้ยงจากริมถนนได้ แต่ก็ไม่ได้ยากซะทีเดียวเพราะมีหลายหน่วยงานที่มีน้อง ๆ รอการรับไปเลี้ยงดู​ แต่อาจจะมีขั้นตอนต่าง ๆ ที่ตามมาให้ผู้เลี้ยงดำเนินการอย่างเหมาะสมและถูกต้อง เพราะน้องคือสมาชิกที่สำคัญคนหนึ่งในครอบครัวและชุมชน เรามีดูกันว่าการรับสัตว์เลี้ยงมาในรัฐควีนส์แลนด์ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง 

 

 

Step 1 : สำรวจความพร้อมของตัวเอง

 

how to get a pet 01 

ที่มาภาพ : pixabay.com

 

      อยากเลี้ยงมากแค่ไหน รักสัตว์มากเพียงใด อันดับแรกเราต้องดูความพร้อมของตัวเอง เริ่มต้นจากพื้นที่ในการเลี้ยง สัตว์เลี้ยงแต่ละแบบก็มีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน บางประเภทชอบอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง หรือต้องเลี้ยงในพื้นที่ปิด อย่างเช่น หนูแฮมสเตอร์, งู, ปลา, นก หรือแมว สัตว์บางประเภทต้องการพื้นที่เพื่อปลดปล่อยหรือวิ่งเล่น อย่างเช่นสุนัขบางสายพันธุ์ นอกจากนั้นคือข้อตกลงระหว่างผู้เช่าและเจ้าของห้อง หลายคนมีความจำเป็นต้องเช่าที่พักอยู่ ซึ่งในหลายที่เองไม่อนุญาตให้มีการรับเลี้ยงสัตว์สี่ขาเข้ามา เพราะอาจจะทำความเสียหายให้กับห้องได้ อย่างไรก็ดี พูดคุยกันให้เรียบร้อยก่อนดำเนินการ มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาตามมาอีกนับไม่ถ้วน

 

ต่อมาคือเรื่อง ค่าใช้จ่าย ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการมีสมาชิกใหม่เข้ามาคือการเลี้ยงดูในระยะยาว ตามอายุขัยของสิ่งมีชีวิต สิ่งที่ต้องตามมาคือเรื่องการเตรียมอุปกรณ์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, ยา หรือจะเป็นกรง, ปลอกคอ, เชือกสายจูง สำหรับการพาสัตว์เลี้ยงออกไปนอกบ้าน นอกจากนี้อาจจะต้องพาไปเช็คสุขภาพประจำปี หรือหากน้องเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา ก็ต้องดูแลรักษา

 

สุดท้ายคือ เวลา สัตว์เลี้ยงก็มีชีวิตและจิตใจ เค้าก็ต้องการความรัก ความเอาใจใส่ไม่ต่างจากคน เพราะคุณคือโลกทั้งใบของเค้า ถ้าคุณอยู่ที่พักอาศัยเพียงคนเดียว แต่ต้องออกจากบ้านเช้าตรู่ กลับบ้านดึกดื่น แทบจะไม่มีเวลาได้ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงของเรา แบบนี้น้องเค้าคงไม่มีความสุขเท่าไหร่ หรืออาจจะเกิดอันตรายกับน้องได้ เวลาเกิดป่วยกระทันหันขึ้นมา แต่ไม่มีคนพาไปรักษาทันท่วงที รวมไปถึงสมาชิกคนอื่นภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือรูมเมท ตรวจสอบว่าสามารถอยู่ร่วมกับสมาชิกตัวใหม่ได้เช่นกันหรือไม่

 

เมื่อคุณสำรวจตัวเองแล้วว่ามีความพร้อมทั้งสามอย่างนี้ เรามาดูขั้นตอนต่อไปได้เลย

 

Step 2 : ตามหาสัตว์เลี้ยงที่ต้องการ และขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงตามระบบ

 

how to get a pet 02 

ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/AWLQLD/

 

      อย่างที่ทราบกันดี ว่าไม่สามารถไปจับสัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติมาเลี้ยงได้ หรือจะไปหาแมวหรือสุนัขจรจัดตามท้องถนน (ซึ่งแน่นอนว่าไม่มี) แต่เราสามารถหาสัตว์เลี้ยงที่ต้องการได้ ตามหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นของเอกชนหรือของรัฐ อย่างเช่นของเทศบาลเมืองบริสเบนมีสถานสงเคราะห์สัตว์ถึง 5 แห่งด้วย ภายใต้การดูแลของ Animal Welfare League Queensland (AWLQ) สามารถเข้าไปดูโลเคชั่นต่างๆ แต่ขั้นตอนการรับเลี้ยงเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซด์นี้ หรือถ้าไม่อยากรับเลี้ยง ก็สามารถสมทบทุนองค์กรนี้ได้ เพื่อสนับสนุนการดูแลภายในสถานสงเคราะห์

 

เมื่อเราเจอสัตว์เลี้ยงที่เป็นเนื้อคู่ที่เราถูกใจ ต่อมาคือการนำสัตว์เลี้ยงไปลงทะเบียนกับเมือง เพื่อรับคำแนะนำและการเข้ารับบริการของเทศบาลท้องถิ่นอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อสัตว์เลี้ยงเกิดสูญหาย ทางเทศบาลก็สามารถช่วยเหลือและยืนยันตัวตนสัตว์เลี้ยงและเจ้าของได้ ในวันนี้เราจะยกขั้นตอนการลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงยอดนิยม เฉพาะสุนัขและแมวเท่านั้น 

 

 how to get a pet 03

ที่มาภาพ : pixabay.com

สำหรับสุนัข มีขั้นตอนอยู่สองส่วน คือส่งแบบฟอร์มออนไลน์ลงทะเบียน และ จ่ายค่าธรรมเนียม

สามารถกรอกข้อมูลได้ที่แบบฟอร์มนี้ โดยเงื่อนไขของการเลี้ยงสุนัขคือ

  • สุนัขต้องได้รับการฝังไมโครชิฟ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้จำหน่ายสุนัขต้องจัดการก่อนส่งมอบให้ผู้รับเลี้ยง
  • สุนัขต้องมีอายุเกิน 3 เดือนขึ้นไป ถึงจะสามารถลงทะเบียนได้
  • หนึ่งหลังคาเรือน สามารถเลี้ยงสุนัขได้ไม่เกิน 2 ตัวเท่านั้น
  • บ้านที่เลี้ยง ห้ามเป็นรูปแบบกำแพงติดกัน (เช่น บ้านทาวน์เฮาส์) และต้องมีพื้นที่บ้านอย่างน้อย 400 ตารางเมตร

    สิ่งที่จำเป็นต้องกรอกข้อมูล อันได้แก่ หมายเลขไมโครชิฟ , รายละเอียดของสุนัข ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ อายุ และรูปพรรณสัณฐานที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงที่อยู่ และช่องทางการชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งถ้าสุนัขผ่านการทำหมันแล้ว จะจ่ายค่าธรรมเนียมถูกกว่าสุนัขที่ยังไม่ได้ทำหมันเกือบเท่าตัว

หลังจากกรอกข้อมูลออนไลน์แล้ว จำเป็นต้องกรอกเอกสาร Dog Regristration Application ซึ่งหาโหลดแบบฟอร์มได้ที่นี่เลย  และส่งจดหมายไปที่ Brisbane City Council, GPO Box 1434, Brisbane QLD 4001

หลังจากลงทะเบียนครั้งแรกเสร็จแล้ว อย่าลืมที่จะต่ออายุใบอนุญาตเลี้ยงสุนัขทุกๆ 12 เดือน เพื่ออัพเดทข้อมูลสุนัขในแต่ละปี รวมไปถึงหากต้องการเปลี่ยนเจ้าของคนใหม่ จำเป็นต้องแจ้งเทศบาลเมืองเช่นกัน รายละเอียดอื่นๆ สามารถหาอ่านเพิ่มได้ที่นี่

 

 how to get a pet 04

ที่มาภาพ : pixabay.com

 

อีกสัตว์เลี้ยงยอดฮิตสำหรับทาสทั้งหลาย นั่นคือน้องแมว สิ่งที่ทาสแมวทราบกันดีคือนิสัยของน้องแมวที่ส่วนใหญ่แล้วค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว อินดี้ ชอบอยู่ตัวเดียว จึงสามารถเลี้ยงได้พื้นที่ปิด การดูแลก็อาจจะง่ายกว่าถ้าเทียบกับสุนัข อีกทั้งไม่จำเป็นต้องทำเรื่องลงทะเบียนเหมือนกับการเลี้ยงสุนัข โดยเงื่อนไขการเลี้ยงแมวในบริสเบนต้องประกอบไปด้วย

  •  แมวต้องได้รับการฝังไมโครชิฟ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้จำหน่ายสุนัขต้องจัดการก่อนส่งมอบให้ผู้รับเลี้ยง
  •  หนึ่งหลังคาเรือน สามารถเลี้ยงแมวได้ไม่เกิน 3 ตัวเท่านั้น หากต้องการเลี้ยงมากกว่า 2 ตัว ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องลงทะเบียนเหมือนกับการเลี้ยงสุนัข

 
ถ้าเงื่อนไขเหล่านี้ครบถ้วน ต่อมาคือการจัดพื้นที่เลี้ยง เจ้าของต้องเลี้ยงแมวในพื้นที่ปิด หรือหากพาไปนอกบ้าน ต้องจูงหรือนำน้องใส่กรงอย่างถูกต้อง ไม่ให้ไปทำร้ายใคร อีกทั้งต้องมีปลอกคอเพื่อระบุตัวตนอย่างชัดเจน อีกความรับผิดชอบของผู้เลี้ยง คือต้องพาแมวไปฉีดวัคซีนประจำปีและทำหมันเมื่ออายุเกิน 6 เดือน เพื่อการลดแพร่พันธุ์

ส่วนสัตว์ประเภทอื่นๆ เช่น ไก่, ม้า, กระต่าย จำเป็นต้องลงทะเบียนเช่นกัน แต่จะมึความแตกต่างกันในแต่ละประเภท สามารถศึกษาข้อมูลต่อได้ที่นี่เลย 

 

 

Step สุดท้าย : เลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงอย่างเหมาะสม ไม่รบกวนผู้อื่น

 

 

 how to get a pet 05

ที่มาภาพ : freepik.com

 

      สิ่งต่อมาที่ควรให้ความสำคัญหลังจากการรับเข้ามา คือเรื่องการเลี้ยงดูอย่างถูกวิธีและเหมาะสม ในประเทศออสเตรเลียเอง มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์เลี้ยง และกฎหมายควบคุมการเลี้ยงสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ที่ถูกต้องคือการไม่ทำร้ายสัตว์และไม่รบกวนบุคคลรอบข้าง โดยเฉพาะการพาน้องออกไปเดินเล่นนอกสถานที่ สิ่งที่ต้องพึงระลึกไว้เสมอ มีดังต่อไปนี้

  • เมื่อพาสัตว์เลี้ยงออกไปนอกพื้นที่บ้าน จำเป็นต้องมีเชือกจูงไว้เสมอ เพื่อควบคุมและลดโอกาสการไปทำร้ายบุคคลอื่น โดยเฉพาะเด็ก 
  • แต่อย่างไรก็ตาม ภายในเมืองก็มีสวนสาธารณะที่มีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงมากถึง 150 จุดโดยเฉพาะสุนัข ซึ่งในพื้นที่นี้ เจ้าของสามารถปล่อยเชือกให้น้องวิ่งเล่นได้อย่างเต็มที่ในพื้นที่ปิด
  • พาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพประจำปี ทำหมัน ฉีดวัคซีน และใช้เวลาดูแล

 

การมีสัตว์เลี้ยงสักตัว ถือเป็นความรับผิดชอบที่ค่อนข้างใหญ่และระยะยาว ในบางครั้งสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อาจมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นมิตรกับคนทั่วไป ไม่ว่าจะด้วยนิสัยหรือการส่งเสียงรบกวน การที่มีกฎระเบียบท้องถิ่นที่เคร่งครัด ทำให้มนุษย์กับสัตว์ สามารถอยู่ร่วมกันได้ทั้งหมด ไม่ใช่แค่เจ้าของพวกมันเพียงอย่างเดียว เพราะสุดท้ายแล้วสัตว์เลี้ยงของเรา ก็เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนรอบเราเองด้วยเช่นกัน ดังนั้นวางแผนสักนิด ก่อนที่จะรับสมาชิก 4 ขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 23 มิ.ย. 2023
Yingg Is

ไปได้ทุกที่ ยกเว้นบ้าน