ข่าวล่าสุด:
เข้าสู่กลางปี เข้าสู่ฤดูหนาว อย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าจะเป็นฤดูกาลที่ผู้คนไม่ค่อยออกมานั่งเล่นกลางแจ้ง ไม่สดใสเหมือนช่วงหน้าร้อนสิ้นปี ในแต่ละรัฐในออสเตรเลียเอง ก็มีของดี มีสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ รวมถึงปรากฎการณ์ธรรมชาติที่ต้องไปเยือนแค่ในฤดูกาลนี้อีกด้วย
บทความนี้จะมารวมทั้งงานอีเวนท์และกิจกรรมหน้าหนาวที่น่าสนใจมาฝากกันในแต่ละรัฐทั่วประเทศ แน่นอนว่าแต่ละพื้นที่ ต่างมีสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกัน ให้ตลอดสามเดือนของฤดูหนาวนี้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
AUSTRALIA CAPITAL TERRITORY
เฉลิมฉลอง (บรรยากาศ) คริสมาสต์ ที่งาน XMAS in July Festival, Canberra
ที่มาภาพ : eventbrite.com.au
เริ่มต้นกันจากเมืองหลวงของประเทศ เมือง Canberra อย่างที่ทราบกันดีว่าช่วงเวลาคริสต์มาสที่ออสเตรเลียจะตรงกับหน้าร้อน ทำให้บรรยากาศการเฉลิมฉลองจะมีความแตกต่างกับเมืองส่วนใหญ่ในโลก แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะที่ Canberra ดึงบรรยากาศแห่งความสนุก ความรื่นเริงของคริสต์มาสกลับมาอีกครั้งที่ไม่ใช่ช่วงสิ้นปี แต่เป็นช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน เพื่อให้ชาวเมืองได้สัมผัสถึงฤดูหนาวอย่างแท้จริง ผ่านการจัดงานที่ชื่อว่า XMAS in July Festival จัดขึ้นที่ National Rose Gardens ภายในงานมีการจำหน่ายอาหารร้อน ๆ และเครื่องดื่มอุ่น ๆ ที่มักจะขายตามตลาดคริสต์มาสในประเทศโซนยุโรป อย่างไวน์ร้อน Mulled Wine และ อาหารทานเล่นแสนอร่อยอย่าง ชีสฟองดู, Gnocchi แสนอร่อยในซอสครีมเห็ด, Hot Dog สไตล์เยอรมันชิ้นใหญ่น่าทาน, Lobster Rolls และร้านอาหารป๊อปอัพมากถึง 40 ร้าน
อีกทั้งภายในงานยังจัดบรรยากาศฟิลยุโรปด้วย กระท่อมไม้, อุปกรณ์ประกอบฉากคริสต์มาส และไฟนางฟ้า จะทำให้เราอบอุ่นขึ้นอย่างแน่นอน งานนี้จัดขึ้นวันที่ 27 ถึง 30 มิถุนายนนี้ ที่สำคัญงานเข้าฟรี หลังจากจัดเพียง 2 ครั้ง เทศกาลนี้ก็ชนะใจชาวเมือง ถึงขนาดมีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 60,000 คนมาเฉลิมฉลองคริสต์มาสกลางปีแบบนี้
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://christmasinjuly.com.au/
NEW SOUTH WALES
เล่นสกี ท่ามกลางภูเขาหิมะที่ Thredbo
ที่มาภาพ : pixabay.com
ประเทศออสเตรเลียมีลานสกีหลายแห่ง มีหนึ่งแห่งที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศ และตั้งอยู่ในรัฐ New South Wales ที่นี่มีชื่อว่า Thredbo ลานสกีที่ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติ Kosciuszko บนเทือกเขา Snowy Mountains
Thredbo เป็นหนึ่งในสกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดของออสเตรเลีย และเป็นจุดหมายปลายทางการผจญภัยหิมะ ที่นี่เปิด 365 วันต่อปี อีกทั้งที่นี่เป็นที่ตั้งของลานสกีที่ยาวที่สุดของประเทศ เส้นทางจักรยานเสือภูเขาและเส้นทางเดินป่าที่ดีที่สุด รวมถึงหมู่บ้านบนเทือกเขาแอลป์ที่สวยงามที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่งดงามใจกลางอุทยานแห่งชาติ Kosciuszko ที่มีชื่อเสียง
สำหรับมือใหม่ จนถึงมืออาชีพ ที่ Thredbo รองรับทุกระดับทักษะ กับลู่เล่นสกีอันมากมาย บนพื้นที่ 480 เฮกตาร์ เริ่มต้นจากเส้น “Friday Flat” พื้นที่สำหรับผู้เริ่มต้นโดยเฉพาะ มีทางลาดที่ไม่ซับซ้อนและไม่อันตราย เมื่อคุณเชี่ยวชาญการเลี้ยว ลองไปยังเส้น “Merritts Gondola” ซึ่งเป็นกอนโดลาอัลไพน์แห่งแรกในออสเตรเลีย และขึ้นไปยังพื้นที่ “Cruiser” สนามเด็กเล่นสำหรับผู้เริ่มต้นและปานกลาง สำหรับมือโปรสามารถนั่งกระเช้า Kosciuszko Express Chairlift เพื่อพิชิตทางวิ่งอันแสนท้าทาย บนเส้นทาง “Cannonball”, “Bluff” และ “Little Beauty” และ “Crackenback Supertrail” คือทางวิ่งที่ยาวที่สุดในออสเตรเลียที่ระยะทาง 5.6 กม
นอกจากเส้นทางสกี ที่ Treabo ยังมีกิจกรรมมากมายให้ทำ อย่างที่ Thredbo Leisure Centre ศูนย์กีฬาที่มีสระน้ำอุ่นโอลิมปิกในร่ม สไลเดอร์น้ำ กำแพงหิน ห้องออกกำลังกายและสนามสควอช รวมถึง Mission Inflatable สำหรับเด็กในวันหยุดสุดสัปดาห์และช่วงปิดเทอม อย่าพลาดที่จะแวะพิพิธภัณฑ์ Thredbo Alpine เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์กีฬาหิมะของออสเตรเลีย ผ่านเนื้อหาและอุปกรณ์กีฬา อีกทั้งยังจำหน่ายของที่ระลึก นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารวิวเทือกเขาสุดอลังการ ที่ Kareela Hutte และ Merritts Mountain House สำหรับอาหารเช้ามื้อใหญ่ที่ร้านอาหาร Cascades นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และบาร์มากมาย ให้เพลิดเพลินหลังการเล่นสกีในหมู่บ้าน
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.thredbo.com.au/
VICTORIA
กินของอร่อย ช้อปปิ้งสินค้าที่ Winter Night Market, Melbourne
ที่มาภาพ : concreteplayground.com
ตลาดกลางคืนประจำปี จัดขึ้นหน้าหนาวในทุกวันพุธ ปีนี้เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 5 มิถุนายน จนถึงพุธที่ 28 สิงหาคม พุธสุดท้ายของเดือน งานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ในตลาด Queen Victoria Market ใจกลางเมือง
งานที่จะพาเราไปสัมผัสรสชาติอาหารนานาชาติในสไตล์ Street Food ที่อร่อยที่สุดของเมลเบิร์น มีเครื่องดื่มอุ่น ๆ ที่ต้องลองในงาน เช่น Spiced Milo ไมโลใส่เครื่องเทศ,ไวน์ร้อน Mulled Wine, Butterbeer และ Hot Gin Toddy อีกทั้งยังมีแหล่งช้อปปิ้งพิเศษกว่า 60 ร้าน ทั้งสินค้ามือสอง ของวินเทจและงานแฮนด์เมด กองไฟอันอบอุ่น และความบันเทิงอย่าง “Guru Dudu Silent Disco” อันโด่งดังและดนตรีสดอื่น ๆ อีกมากมาย เตรียมกระเพาะให้ว่าง สองเท้าก้าวเข้ามาในงานได้เลย ที่สำคัญงานนี้เข้าฟรี จัดตั้งแต่ 5 โมงเย็นฟ้าเริ่มมืด จนถึง 4 ทุ่ม
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://thenightmarket.com.au/
QUEENSLAND
ให้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยเพลงแจ๊สกับงาน Jumpers and Jazz, Warwick
ที่มาภาพ : queensland.com
ตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 28 กรกฏาคมนี้ เมือง Warwick กำลังจะมีเทศกาลฤดูหนาวประจำปี ที่แหวกแนวที่สุดใน Queensland เลยก็ว่าได้ ผู้คนในเมืองจะได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรี และศิลปะที่มีชีวิตชีวาผ่านลมหนาวทั่วทั้งเมือง จุดเริ่มต้นของเทศกาลนี้ เกิดขึ้นจากการที่ชุมชนในพื้นที่ต้องการสร้างภูมิทัศน์เมืองให้สวยงาม โดยเฉพาะบนถนนสายสำคัญในเมือง Warwick Art Gallery ได้เกิดไอเดียการผสมผสานการตกแต่งเมือง ผ่านการถักทอด้วยผ้าไหมพรม (Jumpers) ที่ห่อหุ้มต้นไม้ริมทาง และเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงแจ๊ส (Jazz) ที่บรรเลงตามจุดต่าง ๆ ภายในเมือง ทำให้เกิดเป็นชื่องานตรง ๆ ตัวว่า “Jumpers and Jazz” งานที่จัดขึ้นตลอด 10 วันในเดือนกรกฏาคม เทศกาลนี้จัดมาตั้งแต่ปี 2004 ปีนี้ ตรงกับครบรอบ 20 ปีพอดี เชื่อว่าปีนี้จะมาพร้อมกับความสนุกที่ไม่ควรพลาด
นอกจากนี้ ในเมืองยังมีโปรแกรมเวิร์คช็อป นิทรรศการ ร้านค้าศิลปะและงานฝีมือแบบป๊อปอัพ เทศกาลริมถนน รวมไปถึงการเต้นรำแบบสวิง ที่ชักชวนให้เราขยับเนื้อขยับตัว สัมผัสประสบการณ์อันน่ารื่นรมย์ ผ่านเสียงดนตรีแจ๊สและงานศิลปะที่สร้างความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้กับเรา
รายละเอียดงานเพิ่มเติม : https://jumpersandjazz.com.au/
Brisbane Festival 2024 เทศกาลศิลปะและการแสดงบริสเบน
อีกหนึ่งเทศกาลที่น่าสนใจในช่วงปลายหน้าหนาว "Brisbane Festival 2024" เทศกาลศิลปะและการแสดงประจำปีของนครบริสเบน โดยจัดกว่า 23 วัน ระหว่างวันที่ 30 ส.ค. ถึง 21 ก.ย. 2024 มีทั้งกิจกรรมที่ให้เข้าร่วมฟรีและเปิดจำหน่ายบัตร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแสดง กายกรรม ละครเวที โชว์แสงสีเสียง และที่พลาดไม่ได้การแสดงพลุไฟ Riverfire ไฮไลท์หลักของเทศกาลจะจัดในวันเสาร์ที่ 31 ส.ค.
รายละเอียดงานเพิ่มเติม : https://www.mabrisbane.com/fun-corner/queensland-event/brisbane-festival-2024
NORTHERN TERRITORY
ดื่มด่ำงานศิลปะหลายรูปแบบ ในงาน Darwin Festival
ที่มาภาพ : ntnow.com.au
เปลี่ยนบรรยากาศเย็น ๆ ทางตอนใต้ มายังเทศกาลศิลปะฤดูหนาว งานศิลปะที่ผสมผสานจิตวิญญาณของชาว Darwin เข้ากับการเฉลิมฉลองอันร้อนแรงที่สุดของออสเตรเลีย ผ่านการแสดงและเสียงเพลงภายในงาน
Darwin Festival เป็นเทศกาลประจำปีที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในชื่อ Bougainvillea Festival หรือแปลน่ารัก ๆ ว่า เทศกาลเฟื่องฟ้า ในปี 1979 และเปลี่ยนเป็นชื่อเทศกาลดาร์วินตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมา นี่คือเทศกาลศิลปะประจำปีในเมืองดาร์วิน เพื่อการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางวัฒนธรรม ของวิถีชีวิตในรัฐ Northern Territory เทศกาลจัดขึ้นเป็นเวลา 18 วันในเดือนสิงหาคม และประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น คอนเสิร์ตกลางแจ้ง เวิร์คช็อป ละครเวที ดนตรีเต้นรำ การแสดงตลก คาบาเร่ต์ ภาพยนตร์ และทัศนศิลป์ อีกทั้งงานเทศกาล Garma, รางวัลศิลปะ NATSIAA และรางวัลดนตรีพื้นเมืองแห่งชาติ รวมไปถึงงานแสดงศิลปะของชาว Aboriginal ใน Darwin ก็ถูกจัดขึ้นภายในเทศกาลนี้เช่นกัน
ในปี 2024 นี้เทศกาลดาร์วิน จะมีขึ้นในวันที่ 8-25 สิงหาคม มาร่วมสนุกไปกับงานและทำความรู้จักกับเมือง Darwin กันให้มากขึ้น สนใจอ่านข้อมูลเทศกาลและโปรแกรมโชว์ และซื้อตั๋วเข้างานได้ที่ https://www.darwinfestival.org.au/
WESTERN AUSTRALIA
ชมศิลปะแสงสียามค่ำคืนในงาน Lightscape at Kings Park, Perth
ที่มาภาพ : secretperth.com
เปลี่ยนกิจกรรมหน้าหนาวจากตอนกลางวัน สู่การชมความสวยงามในที่มืด ผ่านการจัดแสงสีในสวนสาธารณะใจกลางเมือง Perth กับงาน Lightscape ปีนี้กลับมาที่ Kings Park and Botanic Garden พร้อมกับการออกแบบเส้นทางเดินและมีการจัดวางใหม่ สร้างความตื่นตากับการแสดงแสงสีอันน่าทึ่งทั่วทั้งสวน เดินเล่นไปตามทางเดินที่ส่องสว่าง ดื่มด่ำไปกับความมหัศจรรย์ของค่ำคืนฤดูหนาว ภายในโอเอซิสในเมืองแห่งนี้ งานนี้โดยเริ่มตั้งแต่วันพุธถึงวันอาทิตย์ช่วงเย็น ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนถึง 28 กรกฎาคม ซื้อตั๋วเข้าชมงานและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
SOUTH AUSTRALIA
ชมแสงสียามค่ำคืนในงาน Illuminate Adelaide 2024
ที่มาภาพ : secretadelaide.com
อีกหนึ่งงานแสดงแสงสีเสียงยามค่ำคืน ที่จะพาเราไปชมความอลังการ ผ่านการจัดแสดงแสง สี และเสียงดนตรี ที่ถูกประดับตามตรอกซอกซอยในเมือง และสถานที่สำคัญทางสถาปัตยกรรม เทศกาลที่จะเปลี่ยนให้ทั้งเมือง Adelaide เปล่งประกายตลอดทั้งเดือน
ตลอดทั้งงาน มีโปรแกรมและกิจกรรมอันหลากหลาย แบบฟรีและเสียค่าเข้าชม ผ่านการแสดงตั้งแต่ศิลปินท้องถิ่น จนไปถึงระดับนานาชาติ ได้แก่ “Resonate" เซสชั่นที่จะพาเราไปสัมผัสประสบการณ์แสงสีสุดตระการตา ที่สวนพฤกษศาสตร์ประจำเมือง เทศกาลนี้ยังนำเสนอกิจกรรมทางดนตรีที่ผสมผสาน และคอนเสิร์ตที่มีศิลปินอย่าง “Yothu Yindi” หากท้องหิว ภายในงานที่ก็ยังพื้นที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดจากท้องถิ่น เพียงไวน์สักแก้ว อาหารร้อน ๆ ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเตาผิงกลางแจ้งได้ในเทศกาล Illuminate Adelaide แห่งนี้ นอกจากจะได้ประสบการณ์ฤดูหนาวอันน่าจดจำแล้ว ยังทำให้ผู้เข้าร่วมได้มองเห็นเมืองในมุมมองใหม่อีกด้วย มีเวลาและโอกาสไป Adelaide อย่าลืมชวนเพื่อน ๆ มาร่วมเทศกาลฤดูหนาวที่น่าตื่นเต้นงานนี้
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.illuminateadelaide.com/
TASMANIA
เดินทางออกล่าแสงใต้ที่ Tasmania
ที่มาภาพ : pulsetasmania.com.au
ปิดท้ายกันที่รัฐใต้สุดของประเทศ นั่นคือเกาะ Tasmania หากพูดถึงการชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติยามค่ำคืนที่เรียกว่า Aurora คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงประเทศทางซีกโลกเหนือย่างประเทศนอร์เวย์, ฟินแลนด์ ซึ่งการเดินทางไปถึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แถมมีค่าใช้จ่ายมหาศาลในการไปชมสักครั้งในชีวิต แต่รู้หรือไม่ว่า ในประเทศออสเตรเลีย ประเทศทางซีกโลกใต้ที่คนทั่วไปคาดไปถึง ก็สามารถมองเห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์นี้เช่นกัน ซึ่งฤดูหนาวในออสเตรเลีย คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการชมแสงเฉดสีเขียว น้ำเงิน ม่วง และแดง พริ้วไหวเต้นระบำบนฟ้ายามค่ำคืน ที่เรียกว่า “แสงใต้” ที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงซีกโลกเหนือ แถมยังเดินทางได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องบินในประเทศและเช่ารถขับท่องเที่ยวภายในเกาะ อีกทั้งใน Tasmania สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แถมยังมีสถานทีท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ในช่วงฤดูหนาว (พฤษภาคม-สิงหาคม) จุดชมแสงใต้มีหลากหลายแห่งบนเกาะ ซึ่งเราจะแนะนำจุดชมแสงใต้ยอดนิยม อันได้แก่
Mount Wellington : จุดชมวิวเมืองมุมสูง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาะ อยู่ห่างจาก Hobart ไปทางตะวันตก ใช้เวลาขับรถ 30 นาที ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมแสงออโรราที่ดีที่สุดในพื้นที่ ด้วยความสูงกว่า 1,200 ม คุณจะอยู่เหนือมลภาวะทางแสงในคืนที่มืดมิด อย่างไรก็ตามแสงจากอาคารบ้านเมือง อาจทำให้มองเห็นหรือถ่ายภาพแสงใต้ยากมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพบรรยากาศด้วยเช่นกัน
Bruny Island : ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ Tasmania เกาะเล็ก ๆ ที่เป็นอีกหนึ่งจุดชมแสงใต้ยอดนิยม บริเวณชายฝั่งที่สวยงามแห่งนี้มีท้องฟ้าที่มืดมิด บรรยากาศที่เงียบสงบ และทิวทัศน์ที่สวยงาม จุดที่สามารถรอชมแสงใต้อันได้แก่ Neck Lookout และ Adventure Bay ในเวลากลางวัน Bruny Island ยังมีกิจกรรมยอดนิยมอย่างการ Treakking เลียบชายฝั่ง
Eaglehawk Neck : ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Tasman เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในแทสเมเนียในการชมแสงออโรร่าออสเตรเลีย สถานที่ห่างไกลซึ่งล้อมรอบด้วยมหาสมุทร โล่งกว้าง ทิวทัศน์กว้างไกลและความมืดมิดไร้แสง เป็นสภาพที่ดีเยี่ยมสำหรับการชมแสงใต้ ทำให้ที่นี่เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ใกล้ ๆ กับจุดชมวิวนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียง Port Arthur อดีตหมู่บ้านและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ประเทศออสเตรเลีย เคยเป็น Penal Settlement หรือสถานที่เนรเทศนักโทษ ในศตวรรษที่ 19 และปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ซากปรักหักพังประกอบด้วยเรือนจำขนาดใหญ่และส่วนที่เหลือของโบสถ์นักโทษ
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะสามารถมองเห็นแสงใต้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสภาพอากาศ และความมืดของท้องฟ้า ซึ่งช่วงเวลาตั้งแต่ 5 ทุ่ม ถึงตี 3 มีโอกาสที่จะพบแสงใต้จะสูงกว่า ถึงแม้ว่าเราจะไปชมในจุดชมแสงใต้ที่มีชื่อเสียง แต่ก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมีโอกาสเจอทุกครั้ง แนะนำให้ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ทำนายแสงออโรร่าและพยากรณ์อากาศ และที่สำคัญต้องใช้แต้มบุญที่มีด้วยเช่นกัน
อ้างอิงข้อมูล :
https://www.eventbrite.com.au
https://www.visitnsw.com
https://www.visitmelbourne.com
https://www.southernqueenslandcountry.com.au
https://northernterritory.com
https://www.discovertasmania.com.au
