เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัน “คริสต์มาส”

เผยแพร่เมื่อ 19 ธ.ค. 2013 ผู้เขียน
Christmas Light 2013 Christmas Light 2013

   วันคริสต์มาสแรกเริ่มเดิมทีแล้วเป็นการประเพณีนิยมของผู้นับถือศาสนาคริสต์ เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันคล้ายวันประสูติของพระเยซู วันคริสต์มาสจะจัดในทุกวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี แต่ในปัจจุบันนี้การเฉลิมฉลองคริสต์มาสได้กลายเป็นเทศกาลที่นิยมเป็นอย่างมากในหลายๆ ประเทศ เพราะเป็นการแสดงออกถึงการรวมตัวกันเพื่อการเฉลิมฉลองความสุขและความรื่นเริงบันเทิงใจ 

ในกระทู้นี้เราจะไม่พูดถึงประวัติวันคริสต์มาสนะคะ แต่เราจะพูดถึงสิ่งที่คนทั่วไปนิยมทำในวันคริสต์มาสค่ะ ซึ่งเราจะมาดูกันว่ามีอะไรบ้างค่ะ  

IMG 9862 Fotor Collage Fotor

  1. การตกแต่งประดับประดาบ้านเรือนให้สวยงามด้วยแสงไฟหลากสี ซึ่งในปัจจุบันนี้ตามร้านค้าต่างๆ ได้มีการจำหน่ายไฟสีสันสวยๆ และลวดลายน่ารักๆ มีหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกค่ะ ผู้คนจะนิยมประดับไฟทั้งนอกบ้านและในบ้าน ที่นิยมเป็นอย่างมากคือไฟดวงเล็กๆ ที่ส่องแสงระยิบระยับหรือบ้านเราเรียกว่า “ไฟกระพริบ” นั่นเอง สำหรับข้อควรระวังก็คือ ต้องหาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้มีความชำนาญทางด้านไฟฟ้ามาเป็นผู้ติดตั้ง เพราะบางทีอาจมีการเกิดอันตรายเกี่ยวกับไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอาจจะนำความทุกข์ใจเข้ามาแทนความสุขได้ค่ะ 
  2. การตกแต่งต้นคริสต์มาส แรกเริ่มเดิมทีแล้วชาวคริสต์จะใช้ต้นสนจริงๆ มาประดับตกแต่ง โดยการตกแต่งนี้จะเป็นการนำต้นสนเข้ามาประดับไว้ในบ้าน แล้วก็มีการนำสิ่งของเล็กๆ ต่างๆ มาห้อยที่กิ่งก้านของต้นสน อาทิเช่น รูปนางฟ้าตัวน้อยๆ รูปกามเทพ หรือที่นิยมที่สุดก็จะเป็นการใช้วัสดุที่มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ คล้ายกับลูกบอลมาห้อยตกแต่งเพื่อความสวยงามและน่ารักมากยิ่งขึ้น แต่ในปัจจุบันคนทั่วไปโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเมืองจะเลือกใช้ต้นคริสต์มาสปลอมที่มีขายตามร้านค้าทั่วไปมาตกแต่งมากกว่าที่จะใช้ต้นสนจริงๆ ด้วยเหตุผลจำกัดในหลายๆ ด้าน เพื่อความสะดวกสบาย และอนุรักษ์ต้นไม้ค่ะ ด้านความสวยงามของต้นคริสต์มาสปลอมนี้ ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าต้นสนจริงๆ นะคะ เพราะเจ้าต้นคริสต์มาสปลอมนี้ จะมีหลากหลายสีสันให้เลือกตามใจชอบ รวมทั้งมีขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กเพื่อตั้งโต๊ะไปจนถึงขนาดใหญ่ยักษ์ เพื่อตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ในบ้านค่ะ ส่วนเครื่องประดับตกแต่งก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน ส่วนสนนราคาก็มีตั้งแต่ถูกจนถึงแพงขึ้นอยู่กับวัสดุที่คุณจะเลือกใช้ในการตกแต่งค่ะ 
  3. ของขวัญ แน่นอนค่ะสิ่งที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอโดยเฉพาะเด็กๆ นั่นก็คือของขวัญ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ส่วนมากจะเตรียมรายชื่อสิ่งของที่ตนเองต้องการไว้แล้วก็บอกกับบุคคลที่ตนรัก เพราะฉะนั้น ของขวัญวันคริสต์มาสจะเป็นสิ่งที่ผู้รับนั้นต้องการ หรืออยากได้มากกว่าจะเป็นการทำเซอร์ไพส์ คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กๆ ส่วนใหญ่จะนิยมนำของขวัญที่ห่อไว้อย่างสวยงามมาไว้ใต้ต้นคริสต์มาสค่ะ แต่สำหรับวัยรุ่นหนุ่มสาวหลายคู่ก็มักจะเลือกเอาวันคริสต์มาสนี้เป็นการขอคนรักของคนแต่งงานโดยการมอบแหวนแทนใจซึ่งตามประเพณีฝรั่งแล้วหมายถึงการหมั้นหรือการขอแต่งงานนั่นเองค่ะ  
  4. ถ้าพูดถึงของขวัญแล้วก็ต้องพูดถึงคนส่งของขวัญนั่นคือ “ซานตาคลอส” สำหรับคนที่โตเป็นผู้ใหญ่กันแล้วย่อมทราบว่าซานตาคลอสนั้นเป็นเรื่องเล่าเพื่อให้เด็กมีความสุขและสนุกตื่นเต้นกับการได้ของขวัญ ซึ่งตามประวัติของการให้ของขวัญนั้นมีการกล่าวอ้างหลายตำราในสมัยโบราณค่ะ แต่บุคคลลที่เป็นที่รู้จักกันมากก็คือ นักบุญนิโคสัสซึ่งจะทำการตรวจสอบดูพฤติกรรมของเด็กๆ ว่าสมควรจะได้รับของขวัญหรือไม่ แต่ในบางตำราก็กล่าวว่าเริ่มจากมิชชั่นนารีท่านหนึ่ง แต่ในที่นี้เราจะไม่พูดถึงประวัติว่าใครเป็นคนให้ของขวัญนะคะ แต่เอาเป็นว่าเด็กๆ ที่จะได้รับของขวัญนั้นส่วนใหญ่แล้วต้องมีพฤติกรรมที่ดีค่ะ ส่วนในการให้ของขวัญในวันคริสต์มาสของนักบุญส่วนใหญ่นิยมให้ลูกอม ลูกกวาดสีสันสดในน่ารักๆ หรือไม่ก็ถั่วค่ะ ส่วนความเชื่อที่สร้างกันมาจากนิทานปรำปราต่างๆ นั้นกำหนดให้ว่า ซานตาคลอสต้องตัวอ้วนและดูเป็นคุณลุงหรือคุณตาผู้ใจดีมีหนวดเคราสีขาวและมากับรถกวางเรนเดียร์ ซึ่งจะนำของขวัญมาให้เด็กๆโดยลงมาทางปล่องไฟค่ะ  
  5. อาหารที่นิยม ตามหลักของชาวคริสต์ ก็จะมีการรับประทานไก่งวง เนื้อสัตว์ ซึ่งเสริฟ์กับเกรวี่ มันฝรั่งบดรวมถึงสลัดผักและขนมปังในรูปแบบต่างๆค่ะ ส่วนอาหารหวานที่นิยมก็มักจะเป็นพุดดิ้ง หรือพายไส้ผลไม้ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงในการรับประทานอาหารก็คือ การได้อยู่ร่วมกันของครอบครัวซึ่งมักจะมารวมตัวกันหลังจากที่แต่ละคนได้แยกย้ายไปมีครอบครัวหรือไปทำงานต่างถิ่น และในหลายประเทศก็ได้กำหนดให้วันคริสต์มาสนี้เป็นวันหยุดประจำปีด้วยค่ะ 
  6. การสวดมนต์ของชาวคริสต์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการสวดมนต์หรือร้องเพลงแบบสวดข้ามปี คือเริ่มจากเที่ยงคืนของวันที่ 24 ธันวาคม จนถึงตีหนึ่งซึ่งนับเป็นวันที่ 25 ธันวาคม (ก็คล้ายๆ กับการสวดมนต์ข้ามปีของชาวพุทธเราน่ะค่ะ)  

แล้วพบกันใหม่นะคะ..

 

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 15 ก.ย. 2014
Miss Brisbane

Fashion Editor
MaBrisbane.com

 

เวปไซต์: www.facebook.com/serena.denis.1