ประสบการณ์แรก ในการหาเพื่อนใหม่ในต่างแดน (by.. Romeo)

เผยแพร่เมื่อ 28 ธ.ค. 2015 ผู้เขียน

เพื่อน.. คือสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์เราขาดไม่ได้จริง ๆ ครับ ยิ่งสำหรับผมที่ตัดสินใจมาออสเตรเลียคนเดียวหลังจากอกหัก โดยที่ไม่รู้จักใครที่นี่มาก่อนเลยเนี่ย ยิ่งมีความต้องการเพื่อนเป็นอย่างสูงเลยล่ะครับ ดังนั้นก่อนบิน ผมพยายามนึกถึงสถานที่ที่สามารถทำให้เราได้เจอกับเพื่อนใหม่ ๆ เพื่อที่จะพาตัวเองให้ไปอยู่ในที่แบบนั้น ผมนั่งลิสต์รายชื่อสถานที่มากมายไม่ว่าจะเป็น ชายหาด, ตลาดสด, ร้านอาหาร, ในห้าง, บนยานพาหนะ ฯลฯ ในที่สุดผมก็ปิ๊งไอเดียเรื่องการหาเพื่อนบนเครื่องบิน !!

ใช่แล้วครับ คนที่นั่งติดกันนี่แหล่ะจะเป็นเหยื่อชั้นดี ที่เหมาะจะเป็นเพื่อนชาวต่างชาติคนแรกของผมเลยล่ะครับ ฮ่า ๆ เพราะยังไงเค้าก็ลุกหนีเราไปไหนไม่ได้แน่นอน ดังนั้นเมื่อได้คุยกันตลอดการเดินทาง พอเครื่องแตะพื้นปุ๊บ เค้าก็ต้องกลายเป็นเพื่อนเราชัวร์ ๆ ว่ะฮะฮ่า ๆ ๆ – ผมคิดแล้วแอบหัวเราะเบา ๆ ในใจคนเดียว

ผมจินตนาการต่อไปอีกว่า คนที่นั่งข้างๆอาจจะเป็นสาวน้อยชาวออสซี่ผมสีบรอนด์ก็เป็นได้ (ผมนึกถึงสาวน้อยไซส์มินิที่น่ารักแสนซนประมาณ Avril Lavigne เลยครับ) เอาล่ะครับ ถ้าเผื่อว่าสิ่งที่ผมนึกมันดันเป็นจริงขึ้นมา ผมจะทำยังไงดีล่ะทีนี้ จะทักด้วยคำว่าอะไรดี? ทักแล้วจะไปยังไงต่อ, คุยเรื่องอะไรกันดี ฯลฯ ในตอนนั้นมีคำถามจากความกังวลลอยผุดขึ้นมาเยอะแยะเต็มไปหมดเลยครับ

ผมเริ่มหาข้อมูลบทสนทนาของฝรั่งทั่วไปด้วยการดูซีรีส์เรื่อง FRIENDS เพราะมันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน จะได้รู้ว่าเวลาเพื่อนๆอยู่ด้วยกันในแต่ละวัน เค้าจะถามอะไรหรือคุยอะไรกันมั่ง แต่ดูไปก็ไม่รุ้เรื่องหรอกครับเพราะเค้าพูดกันเร็วจนผมฟังไม่ทัน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นดูหนัง Finding Nemo ครับ เพราะคิดว่าเป็นอนิเมชั่นที่คนรู้จักกันทั่วโลก เวลาเราหยิบเรื่องที่ที่ใครๆก็รู้จักไปคุยกับคนแปลกหน้า มันน่าจะทำให้บรรยากาศการสนทนาสนุกมากขึ้นนะ - ผมให้กำลังใจตัวเอง ^^

นอกจากนั้นผมก็ยังไปค้นประโยคทักทายสวย ๆ จากหนังสือเรื่องสั้นภาษาอังกฤษมาเพิ่มเติมอีกด้วยนะครับ เรียกได้ว่างานนี้ผมทุ่มเทเกินร้อยเลยทีเดียวครับ

พอได้ข้อมูลทุกอย่างมามากพอสมควร ผมก็เริ่มซ้อมพูดประโยคทักทายหน้ากระจกเพื่อที่จะได้เห็นสีหน้าของตัวเองและได้ยินจังหวะการพูด ผมซ้อมจนคล่องเลยครับ โดยเฉพาะประโยคขึ้นต้น “Hi,sweetie. How are you today?” พอพูดจบผมต้องยักคิ้วข้างเดียว 2 ทีด้วยนะครับ ผมลองเช็คในกระจกแล้วครับ ถ้าผมทำแบบนี้ด้วย มันจะออกมาเท่มาก ๆ 555

20151228-romeo-friends-tg

ถึงวันบิน ผมตื่นเต้นสุด ๆ เลยครับ วันนี้สินะที่ผมจะได้มีเพื่อนใหม่เป็นชาวต่างชาติตัวเป็น ๆ ซักที หลังจากที่ผมเดินมาถึงที่นั่ง ผมเห็นเบาะที่นั่งทั้งแถวว่างเปล่า ผมเลยค่อยเดินเข้าไปทิ้งตัวนั่งด้วยความผ่อนคลาย ค่อย ๆ หลับตา ภาวนาให้ฝันของผมเป็นจริง “สาธุ~ ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ขอให้มีผู้หญิงออสซี่ผมสีบรอนด์มานั่งข้างๆ ผมด้วยเถิด” (ผมเลือกที่นั่งติดหน้าต่างครับ เผื่อเวลาคนที่นั่งข้าง ๆ หันมามองท้องฟ้า องศาตาของเค้าจะต้องมองผ่านใบหน้าผม แล้วผมซึ่งนั่งรอจังหวะอยู่แล้วจะได้หันไปยิ้มให้พร้อมกับเอ่ยประโยค “Hi sweetie.” เพื่อทักทายได้ทันที)

สักพักผมก็เริ่มรู้สึกว่ามีคนกำลังมานั่งข้างๆผม หัวใจผมเต้นแรง พยายามนึกถึงประโยคทักทายเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดที่เคยซ้อมเอาไว้ แล้วผมก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ..

แต่แล้วผมก็ต้องตะลึง..

เพราะคนที่มานั่งข้างผมเป็นพระ !!

ครับ คนที่มานั่งข้างผมเป็นพระหลวงพี่นี่แหล่ะครับ เที่ยวบินนี้มีคณะสงฆ์มากันหลายรูปเลยครับ หลวงพี่ยิ้มให้ผม ผมยกมือสาธุ พยายามทำจิตใจให้สงบ, พยายามลืม Avril Lavigne ให้เร็วที่สุด แล้วเริ่มต้นสนทนาธรรมกับหลวงพี่

ตอนนี้ผมได้รู้แล้วครับว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง… มานั่งอยู่ข้าง ๆ ผมเลยครับ 55

นับว่าเป็นการเดินทางที่อบอวนไปด้วยกลิ่นไอของความเป็นศิริมงคลอย่างมากครับ

 

ปล. อุตส่าห์ซ้อม “Hi,sweetie”

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 28 ธ.ค. 2015
Romeo's

อร่อยแท้แม้ไม่ทาอะไร