สั่งพิมพ์หน้านี้

เรียนรู้ร่องรอยในอดีต ผ่านรูปปั้นและประติมากรรมภายในเมือง

เผยแพร่เมื่อ 21 เม.ย. 2023 ผู้เขียน

ที่มาภาพปก : anzacsquare.qld.gov.au

 

หากมีโอกาส เดินเล่นในตัวเมืองบริสเบน หลายคนคงได้พบกับรูปปั้นบุคคลที่ทั้งสวยงามและคลาสสิค แต่แฝงไปด้วยเรื่องราวในอดีตมากมาย แล้วบุคคลแต่ละท่านคือใคร มีความสำคัญกับเมืองอย่างไร

เดือนนี้เราจะมารวบรวมประติมากรรมจุดต่าง ๆ ภายในตัวเมืองที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ให้ได้รู้จัก นอกจากจะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองแล้ว แต่ละจุดมีความเป็นมาที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว

 

 

The Anzac Square War Memorial

 

historical statues in brisbane 01

ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/ANZAC_Square,_Brisbane

 

historical statues in brisbane 02

 ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Shrine_of_Remembrance,_Brisbane

 

 

      ที่นี่คืออนุสรณ์สถานรำลึกถึงทหารชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ผู้สละชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 คำว่า ANZAC ย่อมาจาก “Australian and New Zealand Army Corps” ลานอนุสรณ์นี้ตั้งอยู่ระหว่างถนน Ann Street กับ Adelaide Street ใจกลาง CBD อยู่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟ Brisbane Central เลย จุดนี้สร้างขึ้นโดยศิลปินที่มีชื่อว่า F. W. Doyle-Jones เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1930 ประกอบไปด้วยลานวงกลมขนาดใหญ่ ที่มีเสาล้อมรอบในสไตล์ Greek Classic ที่เรียกว่าจุดนี้ว่า “Shrine of Remembrance” บริเวณตรงกลางลาน จะมีคบเพลิงไฟที่ไม่เคยดับหรือ Eternal Flame ตามความเชื่อทางศาสนา ในทุก ๆ วันที่ 25 เมษายนตรงกับวัน Anzac Day จะมีการนำดอกไม้มาแสดงความไว้อาลัยกับทหารผู้เสียชีวิตที่นี่อีกด้วยนะ

สิ่งที่น่าสนใจของ The Anzac Square War Memorial นั้นมีอยู่หลายจุด อย่างเช่น จำนวนเสาบริเวณลาน Shrine of Remembrance มีทั้งหมด 18 เสา และมีจำนวนขึ้นบันไดทั้งหมด 19 ขั้น สองตัวเลขนี้มาจากปี 1918 ซึ่งเป็นปีที่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ส่วนต้นปาล์มที่ปลูกบริเวณรอบ เป็นสัญลักษณ์ในพระคัมภีย์ไบเบิ้ลที่หมายถึงชัยชนะ และเป็นต้นปาล์มสายพันธุ์ Middle East ซึ่งเป็นดินแดนที่ได้ชัยชนะจากสงครามโลกนั่นเอง

 

historical statues in brisbane 03 

ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/South_African_War_Memorial,_Brisbane

 

หากเดินออกมาภายนอกลานบริเวณสวนหย่อม ยังมีรูปปั้นทหารที่แต่งชุดเต็มยศ เพื่อไว้อาลัยกับการสูญเสียในสงครามอื่น เช่น สงครามโลกครั้งที่สอง, สงครามเวียดนาม และหากเราหันออกจากสถานี Brisbane Central และเดินมาด้านหล้งลาน Shrine of Remembrance จะพบกับประติมากรรมเของนายทหารที่มีชื่อว่า Lieutenant-Colonel Charles James Reade อยู่บนหลังม้า เป็นอนุสาวรีย์ทหารสำหรับสงคราม Second Boer War ที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ในช่วงปี 1899-1902 โดยมีรายชื่อทหารที่เสียชีวิตทั้งหมด 89 นาย จารึกอยู่บนแผ่นทองแดง วันไหนมีโอกาสไปเดินเล่นบริเวณ Anzac Square อย่าลืมที่จะแวะเข้าไปชมความสวยงามของรูปปั้นแต่ละจุดด้วยล่ะ

 

 

The Queen Victoria Statue 

 

historical statues in brisbane 04 

ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_public_art_in_Brisbane

 

 

      รูปปั้นพระราชินีวิตอเรียที่ 1 ​แห่งสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่บริเวณถนน George Street ออกแบบโดย Thomas Brock ศิลปินชาวอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเพื่อแสดงความอาลัยหลังการสวรรคตในปี 1901 และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1906 Queen Victoria พระองค์นี้ขึ้นครองราชย์ยาวนานถึง 63 ปี หลังจากนั้น Queen Elizabeth II ผู้เป็นเหลน ได้ขึ้นครองราชย์ต่อมา และได้สวรรคตไปเมื่อปีที่ผ่านมานี้เอง นอกจากตั้งขึ้นเพื่อแสดงความอาลัยแล้ว ยังเป็นการบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Commonwealth นั่นเอง

 

 

The King George V Statue

  

historical statues in brisbane 05

 ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_public_art_in_Brisbane

 

 

      รูปปั้นกษัตริย์ King George ที่ 5 ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณด้านข้างทางเข้าอาคาร Brisbane City Hall โดยมีสิงโตประจำการสองฝั่งประตู กษัตริย์พระองค์นี้มีความสำคัญอย่างไร และเหตุใดจึงต้องมีรูปปั้นของพระองค์อยู่ที่บริเวณนี้

King George V คือกษัตริย์จากเกาะอังกฤษที่มาเยือนเมืองบริสเบนในปี 1920 เพื่อสานสัมพันธไมตรีระหว่างจักรวรรดิอังกฤษกับผู้ปกครองเมืองในยุคนั้นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ประเทศออสเตรเลียได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ทำให้การเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองมีความยากจนและความทุกข์ King George V จึงได้เสด็จมาเยือนอีกครั้ง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับชาวเมืองให้ก้าวพ้นกับความยากลำบากในครั้งนี้ไปได้ อีกทั้งการมาเยือนแต่ละครั้ง ก่อให้เกิดการสร้างสาธารณูปโภคที่มีความสำคัญต่อชาวเมือง อย่างเช่น Story Bridge หนึ่งในแลนด์มาร์คและมีความสำคัญต่อการเดินทางจนถึงวันนี้ 

 

 

historical statues in brisbane 06

 ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Brisbane_City_Hall

 

 

รูปประติมากรรมสำริด King George V จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1938 เป็น 18 ปีหลังจากการเสด็จเยือนครั้งแรกอีกทั้งยังเป็นปีที่สวรรคตของกษัตริย์พระองค์ ออกแบบโดยช่างแกะสลัก Sir Bertram Mackennal ชาวอังกฤษ โดยมีรูปปั้นราชสีห์เปรียบเสมือนองครักษ์ประจำกาย ที่ในอดีตเป็นเพียงรูปปั้นแกะสลักจากหินทราย จนต่อมาได้มีการบูรณะใหม่เป็นทองเหลืองที่มีความคงทนแข็งแรงจนถึงทุกวันนี้ รูปปั้นนี้ถูกติดตั้งครั้งแรกให้เป็นจัตุรัส ใจกลางเมืองให้รถสัญจรไปมา จนถึงปี 1969 จำเป็นต้องมีการรื้อถอนเพื่อทำการก่อสร้างที่จอดรถใต้ดิน ทำให้มีการย้ายตำแหน่งรูปปั้นมายังด้านข้าง City Hall โดยให้ไม่รบกวนพื้นที่โล่งด้านหน้าอาคารจนถึงปัจจุบัน

 

 

The Petrie Tableau

  

historical statues in brisbane 07

 ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/King_George_Square

 

 

      ตรงข้ามรูปปั้น King George V นี้เอง จะมีรูปปั้นสำริดขนาดใหญ่ ที่เป็นกลุ่มคนและสัตว์ในอิริยาบถต่าง ๆ  อยากรู้หรือไม่ว่ากลุ่มคนเหล่านี้คือใคร มีความสำคัญอย่างไรกับเมืองบริสเบน

กลุ่มรูปปั้นเหล่านี้ เป็นการบอกเล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของสมาชิกในตระกูล Petrie ผู้ซึ่งกำลังมาลงหลักปักฐานในรัฐ​ Queensland เป็นกลุ่มคนแรก ๆ ในช่วงศตวรตที่ 19 สร้างขึ้นโดยศิลปินที่มีชื่อว่า Daphne Mayo โดยตระกูล Petrie ได้มาตั้งรกรากและได้วางรากฐานตัวเมืองไว้มากมาย โดยเฉพาะด้านสถาปัตยกรรมและการก่อร่างสร้างเมืองตั้งแต่ปี 1940 จนถึงรุ่นลูกหลานในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีหนึ่งในสมาชิกครอบครัวที่ชื่อว่า John Petrie เป็นนายกเทศมนตรีคนแรกของเมืองบริสเบน อีกทั้งยังเคยเป็นช่างก่อสร้างและวิศวกร ผู้ก่อสร้างอาคาร Brisbane City Hall และสะพาน Victoria Bridge ในช่วงยุคแรกอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นตระกูลที่มีบทบาทสำคัญในอดีตมากเลยทีเดียว ด้วยคุณูปการต่อสังคมที่ตระกูลสร้างไว้ ชื่อของ Petrie ถูกนำไปใช้ในสถานที่อื่น ๆ  ไม่ว่าจะเป็นชื่อโรงเรียน Petrie Terrace State School และอนุสรณ์ Tom Petrie ผู้มีบทบาทเกี่ยวกับชาว Aboriginal ในอดีตเช่นกัน

 

 

Speakers' Corner

  

historical statues in brisbane 08

 ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_public_art_in_Brisbane

 

 

      อีกมุมหนึ่งของ King George Square ยังคงมีรูปปั้นสำริดเป็นภาพของชายหญิงกำลังยืนพูดอะไรบางอย่าง ทั้งสามท่านนี้เป็นชาวออสเตรเลียที่มีภูมิลำเนาอยู่ในควีนแลนด์ ซึ่งได้มีชื่อเสียงและสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศ

ชายคนแรกมีชื่อว่า Steele Rudd นักเขียนผู้มีนามปากกา ‘Arthur Hoey Davis’ มีผลงานด้านวรรณกรรมมากมายทั้งนวนิยายและเรื่องสั้น โดยเฉพาะรวมเรื่องสั้น 'On Our Selection บนนิตยสารรายสัปดาห์ The Bullentin ตั้งแต่ปี 1899

สตรีคนต่อมามีชื่อว่า Emma Miller สตรีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงปี 1890 ผู้ก่อตั้งสหภาพแรงงาน และเรียกร้องสิทธิที่เท่าเทียมในการออกเสียงเลือกตั้ง จนไปถึงเป็นผู้ที่จุดประกายพรรคแรงงาน หรือ Australian Labor Party (ALP) ในทุกวันนี้

ส่วนชายคนสุดท้าย คือ Charles Lilley นายกเทศมนตรีและหัวหน้าผู้พิพากษาประจำศาลฎีกาของควีนแลนด์ ผู้ผลักดันด้านการศึกษาภายในรัฐและเป็นมีส่วนในการก่อตั้ง Brisbane Grammar School ในช่วงปี 1860 เป็นโรงเรียนมัธยมที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ทั้งสามท่าน มีส่วนผลักดันเมือง ทั้งในแง่การเมือง วรรณกรรม และการศึกษา ในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งยังคงทิ้งผลงานและได้สานต่อ พัฒนาจนมาถึงทุกวันนี้

 

 

Man and Matter

  

historical statues in brisbane 09

 ที่มาภาพ : www.brisbane.qld.gov.au

 

 

      ใครมีโอกาสได้ไปเดินออกกำลังกายเลียบแม่น้ำบริสเบน บนเส้นทาง Kangaroo Point Cliffs Boardwalk คงเคยเห็นงานศิลปะโครงเหล็กรูปร่างคนสีแดงโพสท่าทาง ไม่ใช้ชิ้นงานที่ตกแต่งสถานที่ธรรมดา แต่เป็นงานศิลปะที่มาจากงานใหญ่ระดับประเทศในอดีต นั่นคืองาน World Expo '88 งานระดับโลกที่ในแต่ละประเทศทั่วโลก จะมาจัดแสดงงานเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวหรือนำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ  เมืองบริสเบนเองได้รับเชิญให้เป็นเจ้าภาพของงานในเดือนตุลาคม ปี 1988 ในงานนี้มีผู้เข้าชมงานทั่วโลกมากถึง 15 ล้านคน นอกจากจะมีสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น ยังมีงานศิลปะมากถึง 90 ชิ้นงานที่โชว์ภายในงานเช่นกัน หลังจากครบรอบ 30 ปีของ World Expo '88 สภาเทศบาลเมือง นำงานเหล่านี้กลับชุบชีวิตใหม่อีกครั้ง ด้วยงานนำมาจัดวางตามจุดต่าง ๆ ของเมือง ไม่ว่าจะเป็นภายในตัวเมือง CBD, Brisbane Botanic Gardens หรือจะย่าน South Brisbane 

งาน World Expo '88 มีแนวคิดที่มีชื่อว่า ‘Leisure in the Age of Technology’ ศิลปิน Peter D Cole นำมาประยุกต์เป็นงานศิลป์คนสีแดงที่มีชื่อชิ้นงานว่า 'Man and Matter’ นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยี ผ่านการแสดงออกด้วยท่าทางของมนุษย์ทั้งหมด 12 ท่า โดยเลือกใช้สีแดงที่สื่อถึงการก้าวไปสู่ศตวรรตที่ 21 ด้วยความโดดเด่นของงาน ทำให้ Man and Matter นอกจากจะมีชื่อเสียงแล้ว ยังได้กลายเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญจุดหนึ่งในย่าน Kangaroo Point จนถึงทุกวันนี้

 

 

 

Konstantin Tsiolkovsky 

  

historical statues in brisbane 10

 ที่มาภาพ : architectureau.com

 

historical statues in brisbane 11

 ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_public_art_in_Brisbane

 

 

      ใครที่มีโอกาสได้ไปเยือนอาคารดูดาว Brisbane Planetarium ที่ Mt.Coot-tha คงได้พบกับรูปปั้นชายคนหนึ่ง ที่นั่งแหงนคอมองท้องฟ้าดูเอ็นดูและมีความสุข ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่คือนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีนที่มีชื่อว่า Konstantin Tsiolkovsky ผู้ก่อตั้งศาสตร์การศึกษาเทคโนโลยีด้านอวกาศ ก่อให้เกิดการพัฒนาด้านการสำรวจของนักบินอวกาศโดยเฉพาะ

รูปปั้นนี้ได้ถูกบริจาคมาในช่วง Russia Week ในช่วงปี 2007 โดยหน่วยงานด้านการศึกษาของรัสเซีย ในปีที่ครบรอบปีเกิดที่ 150 ปีของนักวิทยาศาสตร์ท่านนี้ ชายคนนี้เป็นบุคคลที่จุดประกายการค้นพบความลับต่าง ๆ ของจักรวาล มากกว่ามองดูจากบนผิวโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการสำรวจอวกาศ หรือเรียกกัน ว่า Cosmonautics และมีความเชื่อที่ว่า หากใครได้เอามือลูบบริเวณหัวเข่ากับรูปปั้น จะได้เจอกับโชคลาภอีกด้วย

 

นี่คือส่วนหนึ่งของรูปปั้นประติมากรรมที่พบได้ภายในตัวเมือง ยังมีอีกหลายจุดที่ซ่อนเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีต เดินผ่านไปมาในเมืองวันไหน อย่าลืมหยุดแวะชม จะได้มีเรื่องราวใหม่ ๆ ไว้แบ่งปันให้เพื่อนฟัง 

 

ขอบคุณข้อมูล:

  • en.wikipedia.org/wiki
  • queenswharf.org
  • monumentaustralia.org.au
  • petrie.com.au
  • brisbane.qld.gov.au
  • brismania.com

 

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 25 เม.ย. 2023
Yingg Is

ไปได้ทุกที่ ยกเว้นบ้าน