เดือนมีนาคม 2022 สถานการณ์โดยรวมเกี่ยวกับโควิด-19ทั้งของควีนส์แลนด์และออสเตรเลียยังคงตัว จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากเชื้อสายพันธ์โอไมครอน BA.2 ที่กระจายตัวได้เร็วกว่าปกติ แต่ยังอยู่ในขอบเขตที่ทางรัฐควบคุมได้ โดยออสเตรเลียจะมีการปรับเรื่องการเดินทางเข้าประเทศและคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ซึ่งมีประเด็นที่สำคัญดังนี้..
ออสเตรเลียเตรียมยกเลิกตรวจโควิดก่อนเดินทางเข้าประเทศ 17 เม.ย.
ข้อกำหนดต้องตรวจโควิด 19 สำหรับชาวต่างชาติก่อนเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย กำลังจะถูกยกเลิกอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า เริ่มวันที่ 17 เม.ย. ผู้ที่เดินทางเข้ามาในออสเตรเลีย ไม่จำเป็นต้องผ่านการตรวจโควิดก่อนเดินทาง (ณ ปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้ามา จะต้องมีผล PCR เป็นลบภายใน 3 วันก่อนเวลาเดินทาง หรือ ตรวจ RAT ภายใน 24 ช.ม. ก่อนเดินทาง)
อย่างไรก็ตาม การเดินทางเข้าออสเตรเลียจะยังคงต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีน 2 โดส และต้องใส่หน้ากากอนามัยบนเครื่องบินภายในและระหว่างประเทศ
ภายใต้กฎปัจจุบัน ผู้ถือสัญชาติออสเตรเลียและผู้ที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียถาวร (Australian citizens and permanent residents) สามารถเข้ามาได้แม้ว่าไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่สำหรับผู้ที่ถือวีซ่าประเภทอื่นจะต้องฉีดวัคซีน นอกจากจะได้รับการยกเว้น
นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังเปิดให้เรือสำราญจากต่างประเทศเข้ามาได้ หลังจากที่ปิดไปตั้งแต่ มี.ค. 2020
ที่มาและอ้างอิง:
รัฐบาลออสเตรเลียแนะนำให้ชาวออสเตรเลียที่อยู่ในกลุ่มมีความเสี่ยงสูง ฉีดวัคซีนโควิด-19 เพิ่มสำหรับฤดูหนาว (Winter COVID-19 dose)
ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงหากติดเชื้อโควิด-19 สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 4 ได้ก่อนหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึง โดยสามารถฉีดได้หลังจากได้รับเข็มบูสเตอร์(เข็ม 3) ไปแล้วเป็นระยะเวลา 4-6 เดือน
สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. เป็นต้นไป ที่ร้านขายยา, แพทย์ GP และคลินิกวัคซีนที่รัฐบาลเป็นผู้ดูแล ซึ่งเป็นวันเดียวกับโปรแกรมการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่กำลังจะเริ่ม (สำหรับกลุ่มคนที่สามารถได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี https://www.health.gov.au/health-topics/immunisation/vaccines/influenza-flu-vaccine)
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่สูงขึ้นทั่วประเทศ จากการแพร่เชื้อสายพันธ์ Omicron BA.2
Pfizer และ Moderna เป็นวัคซีนแนะนำสำหรับเข็มบูสเตอร์ แต่วัคซีน non-mRNA อย่าง AstraZeneca และ Novavax ก็แนะนำให้เป็นบูสเตอร์(เข็มที่ 4) ได้ หากเป็นความต้องการของผู้รับวัคซีน
The Australian Technical Advisory Group on Immunisation (ATAGI) แนะนำให้ผู้ใหญ่ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป, Aboriginal and Torres Strait Islander ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี, ผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานดูแลผู้สูงอายุและผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ (aged care and disability care facilities), และผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องขั้นรุนแรง รับวัคซีนฤดูหนาวเพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรง
เช่นเดียวกับไวรัสระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ อย่าง ไข้หวัด มีแนวโน้มว่าจะมีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นในฤดูหนาว แม้ว่าโควิด-19 มีการแพร่กระจายตลอดปี แต่สภาพอากาศหนาวเย็นช่วยให้ไวรัสเข้าสู่ร่างกายของเราได้ง่ายขึ้น
วัคซีนบูสเตอร์เป็นตัวป้องกันที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันอาการรุนแรงจากโควิด และอาจช่วยป้องกันอาการระยะยาวจากโควิด (long COVID) ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจึงควรรับวัคซีนเพิ่มก่อนหน้าหนาว ซึ่งสามารถรับวัคซีนพร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้
ชาวออสเตรเลียทุกคนควรได้รับวัคซีนครบโดส และเข็มบูสเตอร์ แม้ว่าจะเคยติดโควิด-19 มาแล้วก็ตาม
การป้องกันการติดโควิดลดลงหลังจากฉีดบูสเตอร์เข็มแรก แต่ว่าการป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงนั้นได้ผลอยู่ในขั้นที่สามารถจัดการดี โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่มีอายุน้อยและแข็งแรง
Health Minister Greg Hunt กล่าวว่า ยังไม่มีแนวโน้มให้วัคซีนเข็มที่ 4 แก่ประชาชนที่เหลือในเวลาอันใกล้นี้ ไม่ใช่ว่าเรามีวัคซีนไม่พอ แต่สถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น
ที่มาและอ้างอิง:
ควีนส์แลนด์เตือนโอไมครอน BA.2 ระบาดระลอก 2 คาดจะพุ่งสูงสุดเดือนเมษายนนี้
ขณนี้รัฐควีนส์แลนด์กำลังเตรียมรับมือกับการระบาดอย่างหนักของโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอน BA.2 ที่กระจายได้รวดเร็วกว่าปกติ ทำให้เคสผู้ติดเชื้อรายวันของรัฐควีนส์แลนด์ขึ้นไปที่วันละหนึ่งหมื่นรายแล้ว
รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐควีนส์แลนด์ Yvette D'Ath รายงานว่าคลื่นระลอกใหม่นี้ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ต้องทำงานกันอย่างหนัก และเจ้าหน้าที่กว่า 2,400 คนต้องกักตัวเพราะติดเชื้อโควิด
ถึงอย่างไรก็ดีทางรัฐยังคงไม่มีการปรับมาตรการใดๆในขณะนี้ แต่จะมีการจับตาดูโดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนที่คาดว่าเคสจะพุ่งสูงขึ้น
ที่มาและอ้างอิง: