สั่งพิมพ์หน้านี้

สิทธิน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระการบินไทย โหลด.. ถือ.. ได้เท่าไหร่?

เผยแพร่เมื่อ 24 ม.ค. 2015 ผู้เขียน

สัมภาระที่นำขึ้นเครื่องของการบินไทยได้ สามารถแบ่งง่าย ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือ สัมภาระฝาก(โหลด)ใต้เครื่อง และ สัมภาระถือขึ้นเครื่อง ซึ่งสัมภาระในส่วนที่โหลดลงใต้เครื่อง จะมีปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดปริมาณน้ำหนักสูงสุดสำหรับแต่ละท่าน อยู่ที่ประเภทของชั้นโดยสารที่เดินทาง และ การถือครองสมาชิกรอยัลออร์คิดพลัส(Royal Orchid Plus, ROP)

 

สัมภาระฝากใต้เครื่อง (Checked Baggage)

สัมภาระที่ไม่มีค่าใช้จ่าย (Free baggage)

ทางการบินไทยมีเกณฑ์กำหนดขีดจำกัดนำหนักของสัมภาระที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อจำกัดของการบินไทย สำหรับเกณฑ์น้ำหนักสัมภาระของชั้นโดยสารแต่ละประเภท ที่ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ มีดังนี้..

ประเภท น้ำหนักสัมภาระทุกชิ้นรวมกันสูงสุด
รอยัลเฟิร์สคลาส
(Royal First Class)
50 กิโลกรัม (110 ปอนด์)
รอยัลซิลค์คลาส
(Royal Silk Class)
40 กิโลกรัม (88 ปอนด์)

พรีเมียม เอโคโนมีคลาส
(Premium Economy Class)
30 กิโลกรัม (66 ปอนด์)
เอโคโนมีคลาส
(Economy Class)
30 กิโลกรัม (66 ปอนด์)

เด็กเล็กที่ไม่ใช้ที่นั่ง
(Infant not occupying a seat)
10 กิโลกรัม (22 ปอนด์)

หมายเหตุ: ตารางนี้ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศในกลุ่ม TC3 และ ระหว่างกลุ่ม TC2, TC3
(TC2: ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง, TC3: ทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์)

2401-tg-increase-baggage
"การบินไทย ประกาศเพิ่มน้ำหนักสัมภาระทุกที่นั่ง 10 กก. เมื่อเดือนกันยายน 2014"

สิทธิประโยชน์เพิ่มน้ำหนักสัมภาระจากรอยัลออร์คิดพลัส

สถานภาพในแต่ละระดับของบัตรสมาชิกรอยัลออร์คิดพลัส จะมีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันเมื่อเดินทางกับการบินไทย และสายการบินพันธมิตร สตาร์อัลไลแอนซ์ สำหรับสิทธิการเพิ่มพิกัดน้ำหนักกระเป๋ามีรายละเอียดดังนี้..

ประเภท น้ำหนักสัมภาระที่ได้รับเพิ่ม
บัตรแพลทินัม (Platinum) 30 กิโลกรัม (66 ปอนด์)
บัตรทอง (Gold) 20 กิโลกรัม (44 ปอนด์)
บัตรเงิน (Silver) 10 กิโลกรัม (22 ปอนด์)

2401-tg-rop

หมายเหตุ: สิทธิ์การเพิ่มพิกัดน้ำหนักสำหรับผู้ถือบัตรเงินอาจมีการยกเว้น กรณีในเส้นทางบินที่มีการพิจารณาน้ำหนักกระเป๋าเป็นจำนวนชิ้น และสิทธิประโยชน์นี้อาจไม่สามารถใช้ได้ในทุกเส้นทางบินของการบินไทย ส่วนผู้ถือบัตรทองและบัตรแพลทินัมจะได้รับสิทธิ์ในการเพิ่มกระเป๋า 1 ชิ้น ทดแทนการเพิ่มน้ำหนัก

สัมภาระส่วนเกิน (Excess baggage)

นอกเหนือไปจากขีดจำกัดของน้ำหนักสัมภาระที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตามข้อมูลข้างต้นแล้ว หากมีสัมภาระส่วนที่เกินมาจะต้องมีการถูกชั่ง และเก็บค่าบริการก่อนที่ผู้โดยสารจะขึ้นเครื่อง ตามเกณฑ์ที่กำหนดของสายการบิน ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะทางของเที่ยวบินในแต่ละโซน

2401-tg-excess-baggage-au

เช่น จากประเทศไทย (โซน 1) ไปยัง ประเทศออสเตรเลีย SYD, BNE, MEL (โซน 4) คิดราคาที่กิโลกรัมละ 30 USD เป็นต้น พร้อมทั้งพิจารณาถึงประเภทของสัมภาระส่วนเกิน ว่าเข้าเงื่อนไขสัมภาระพิเศษ*หรือไม่ (รายละเอียด..)

ดังนั้นควรหากไม่มั่นใจเรื่องน้ำหนักสัมภาระของท่านว่าจะเกินหรือไม่ ควรชั่งก่อนเดินทาง ซึ่งถ้าเกินกว่าขีดจำกัดที่กำหนด สามารถซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มได้ (รายละเอียดท้ายบทความ)

 

สัมภาระถือขึ้นเครื่อง (Carry-on Baggage)

นอกจากสัมภาระที่ฝากใต้เครื่องโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว ผู้โดยสารของการบินไทยแต่ละท่าน ยังสามารถถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้อีก 1 ชิ้น โดยมีข้อกำหนดดังนี้..

  • ความยาวไม่เกิน 56 เซนติเมตร (22 นิ้ว)
  • ความกว้างไม่เกิน 45 เซนติเมตร (18 นิ้ว)
  • ความหนาไม่เกิน 25 เซนติเมตร (10 นิ้ว)
  • น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม (15 ปอนด์)

ขนาดดังกล่าวนี้วัดระยะรวมทั้งล้อ มือจับ และกระเป๋าด้านข้างแล้ว ทั้งนี้ผู้โดยสารจะต้องวางกระเป๋าสัมภาระดังกล่าวไว้บนตู้เก็บเหนือศีรษะ หรือ ใต้เบาะของตนเอง

และผู้โดยสารยังสามารถนำสิ่งของต่อไปนี้ขึ้นเครื่องได้อีก โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่..

  • กระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เงิน กระเป๋าสุภาพสตรี (Handbag / Wallet / Purse) ที่วัดความยาวทุกด้านรวมกัน(กว้าง+ยาว+หนา) ไม่เกิน 75 เซนติเมตร (30 นิ้ว) และน้ำหนักไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม (3.3 ปอนด์)
  • คอมพิวเตอร์พกพา (Notebooks / Portable personal computers)
  • ไม้เท้า ไม้ค้ำยัน (Walking sticks)
  • กล้องถ่ายรูป กล้องส่องทางไกลขนาดเล็ก (Camera / Binoculars)
  • อาหารเด็ก (Infant food)

โดยสัมภาระถือขึ้นเครื่องทั้งหมดนี้ ต้องปฎิบัติตามกฎข้อจำกัดปริมาณของเหลว เจล สเปรย์ ที่มีภาชนะความจุแต่ละชิ้นไม่เกิน 100 มิลลิลิตร (วัดจากภาชนะ ไม่คำนึงของเหลวที่อยู่ข้างใน) และรวมกันไม่เกิน 1 ลิตร (1,000 มิลลิลิตร) พร้อมทั้งบรรจุลงในถุงพลาสติกใสซึ่งเปิด-ปิดผนึกได้ มีข้อยกเว้นสำหรับ นม อาหารสำหรับเด็กทารก และยาที่มีเอกสารกำกับ *รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่เว็บไซต์ของการบินไทย

 

คำแนะนำจากผู้เขียน

ควรระมัดระวังเรื่องน้ำหนักสัมภาระเกิน แม้บางครั้งเจ้าหน้าที่อาจจะผ่อนผันให้บ้าง แต่ก็เป็นดุลยพินิจของทางเจ้าหน้าที่ โดยมีสิทธิที่จะเรียกเก็บค่าบริการเพิ่ม หรือ ปฏิเสธในการรับสัมภาระ

อีกเรื่องคือ.. ถึงแม้ผู้โดยสารจะได้สิทธิน้ำหนักสัมภาระปริมาณมาก แต่น้ำหนักสูงสุดต่อกระเป๋า 1 ใบ ต้องไม่เกิน 32 กิโลกรัม ซึ่งเป็นข้อกำหนดสากลของสายการบินนานาชาติ อันเนื่องมาจากการปกป้องสวัสดิภาพของพนักงานที่ยกกระเป๋า

 

หมายเหตุ: บทความนี้ให้ข้อมูลเจาะจงเฉพาะเที่ยวบินเดินทางระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย(ซิดนีย์ เมลเบิร์น บริสเบน)เป็นหลัก หากท่านเดินทางไปยังประเทศอื่น หรือ ใช้สายการบินเดินทางมากกว่าหนึ่งสายการบิน ควรตรวจสอบข้อมูลจากทางการบินไทยอีกครั้ง และบทความนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่ผู้เขียนได้ทำการค้นคว้าและเผยแพร่ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ในอนาคต ทั้งนี้ผู้อ่านควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้ง ,ขอบคุณครับ


 

พิเศษ.. การบินไทยเปิดให้บริการซื้อนำหนักกระเป๋าเพิ่ม

2401-excess-baggage-online

เมื่อกลางปี 2014 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ของการบินไทยได้เปิดช่องทางใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อนำหนักสัมภาระเพิ่ม โดยต้องซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และสามารถซื้อสูงสุดได้ไม่เกิน 30 กิโลกรัมต่อ 1 ท่าน (รายละเอียด..)

 

ข้อมูลอ้างอิงและรูปประกอบ:
thaiairways.com - "การบินไทย - ข้อมูลสัมภาระ"
thaiairways.com - "การบินไทย - รอยัล ออร์คิด พลัส"

 

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 12 ต.ค. 2016
MaBrisbane

Welcome to The Sunshine State