สั่งพิมพ์หน้านี้

ทริปด่วน 24 ชั่วโมง จาก Brisbane สู่ Sydney New Year's Eve 2018

เผยแพร่เมื่อ 19 ม.ค. 2018 ผู้เขียน
“หญิง ไปดูพลุปีใหม่ที่ Sydney กัน”สียงเพื่อนชาวโคลัมเบียผ่านสายโทรศัพท์ ขณะที่เรากำลังเดินเล่นอยู่ชายหาดแห่งหนึ่งใน Sunshine Coast “เดี๋ยวจะขับรถไป ออกจาก Brisbane ตอน 3 ทุ่ม ขับกลับวันที่ 1 เลย หญิงมาถึงในเมืองกี่โมง?”​ “น่าจะประมาณ 2 ทุ่ม เดี๋ยวขอเวลาจัดของชั่วโมงนึง มารับที่บ้านด้วย” จากคำชวนง่าย ๆ ในคืนวันที่ 30 ธันวาคม 2560 แต่ใครจะรู้ว่ามันจะกลายเป็นทริปที่แสนโหด มัน ฮา และน่าจดจำไปทั้งชีวิต...

 

ณ เวลา 3 ทุ่มกว่า ๆ หน้าบ้าน “แล้วพักที่ไหนล่ะ”​ เราถามเพื่อนเรื่องแพลนต่าง ๆ “เดี๋ยวค่อยหาเอา น่าจะมีเหลือ ๆ บ้างแหละ” แต่เราก็ไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ คิดในใจว่าคงได้นอนริมถนนแน่ ๆ ..​ล้อเริ่มหมุน เข้าถนนเส้น Pacific Highway วิ่งเข้าสู่รัฐ New South Wales สมาชิกทริปนี้มี 4 คน 4 เชื้อชาติประกอบไปด้วย ไทยแลนด์ แม็กซิโก โคลัมเบีย และเอเจนติน่า ที่ต่างตอบตกลงในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งคืนเราผลัดกันขับรถ 3 คน ก่ะละประมาณ 4 ชม. ระหว่างทางที่ขับนั้น นอกจากความมืดมิดยามค่ำคืน(และแสนง่วงนอนมาก) ที่เราต้องเผชิญ เรายังได้พบกับหมอกลงระหว่างทางโดยไม่ทันตั้งตัว บวกกับถนนที่ไร้แสงสว่างข้างทางในบางช่วง มีเพียงป้ายบอกทางและป้ายควบคุมความเร็วที่ต้องขับตามอย่างเคร่งครัด จากคืนอันแสนยาวนานและทรหดถึง 12 ชม. เราก็ได้เข้ามาถึงเมือง Sydney อย่างเป็นทางการในช่วงสายของวันที่ 31 ธันวาคม 2560 วันสุดท้ายของปี ฮู้เร่!!!! 

 

DSC 0011

 

ความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัส Sydney ครั้งแรกในชีวิต ที่นี่มีความเป็น”เมือง” อย่างชัดเจน เมืองที่เต็มไปด้วยรถ ผู้คนควักไขว่ ตึกราบ้านช่องสูงใหญ่ ร้านค้า ร้านอาหาร หากเปรียบกับ Brisbane นี่เรียกได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ได้เลย

 

DSC 0094

DSC 0037

 

สิ่งแรกที่เราต้องหานั่นก็คือ อาคารที่จอดรถ เพราะในวันส่งท้ายปี เค้าจะปิดถนนสำหรับผู้ที่เข้ามาร่วมชมเทศกาลส่งท้ายปีเดินทาง ซึ่งรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.6 ล้านคน!! กว่าเราจะหาที่จอดได้ก็ปาไปตอนบ่าย หายากยิ่งกว่าหาที่จอดในพารากอนซะอีก เราทั้ง 4 ต่างหิวโหยจากมื้อเช้าและมื้อเที่ยงที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง สถานที่แรกที่เราไปนั่นก็คือ China Town เพราะที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหารราคาถูกในปริมาณเยอะ

 

DSC 0036(หน้าตาเพื่อนแถบลาตินอเมริกา ผู้ร่วมชะตากรรมในทรปจากซ้ายไปขวา Cintya (อ่านว่า ซินเทียร์), Oscar และ Juan)

 

หลังจากที่เราท้องตึงกันแล้ว (และหนังตาหย่อนตลอดเวลา) อากาศดี๊ดี แดดแรง ลมเย็น ๆ เราก็พากันไปเดินรอบ ๆ เมือง เพื่อรอเวลาดูพลุยามค่ำคืน 

จุดต่อไปที่เรามุ่งหน้าคือ Hyde Park สวนสาธารณะใจกลางเมือง ซึ่งแน่นอนว่าเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายมาพักผ่อนหย่อนใจ หลังจากนั้นพวกเราก็ไปต่อที่ St Mary's Cathedral โบส์ถ Catholic ที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อเข้าไปชมสถาปัตยกรรมสไตล์ Gothic ในปี 1821-1928 ที่สร้างขึ้นจากหินทราย

 

DSC 0043DSC 0060 

หลังจากใช้เวลาไม่นาน พวกเราก็เดินต่อไปที่ Royal Botanic Gardens เพื่อเดินเล่น (และหาที่งีบนอน) แต่เราก็ได้เจอสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจ นั่นคือผู้คนที่ต่อคิวยาวเป็นกิโล!! ขอเน้นว่า เป็นกิโล เพราะยาวมาก ๆ เพื่อนบอกว่าบางคนเค้ามาต่อคิวกันตั้งแต่เช้า เพื่อมารอดูแสดงพลุตอนเที่ยงคืนในมุมที่สวยที่สุด บ้าไปแล้ววว

 

DSC 0066

 

หลังจากที่พวกเราเห็นความยาวของแถว ก็เริ่มมองหน้ากัน...หรือว่าเราควรจะไปหาที่ดูพลุจริง ๆ จัง ๆ แล้วนะ ยังคิดไม่ทันจบ ก็มองเห็นกลุ่ม Staff ใส่เสื้อโปโลสีชมพู และปักโลโก้ NYE Sydney ก็อยู่รอบ ๆ ตัว เราก็ได้มุ่งตรงไปเพื่อสอบถามถึงรายละเอียดกิจกรรมสำหรับค่ำคืนนี้

 

DSC 0072

(ทีมงานเสื้อโปโลสีชมพู หมวกสีขาว ที่คอยให้ข้อมูล)

DSC 0080

(ป้ายตั้งตามหัวมุมถนนที่บอกตำแน่งชมการแสดงพลุ)

 

สำหรับตำแหน่งการจุดพลุนั้น มีทั้งหมด 5 จุด ตั้งแต่บริเวณ Greenwish Point จนไปถึง Sydney Harbour โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมพลุตามจุดที่แนะนำได้ทั้งหมด 9 จุด ซึ่งเราจะพบป้ายข้อมูลที่บอกถึงตำแหน่งของจุดชมพลุ และระยะเวลาที่เดินทางได้ตลอดหัวมุมถนนในเมือง ซึ่งในบางจุดมีการจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการ เช่น Sydney Opera House, Royal Botanic Garden และ Harbour islands

 

IMG 7162 IMG 7163

 

ก่อนที่เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พวกเราได้วางแผนซื้อของกินตุนจนถึงช่วงเย็น และพวกเราตัดสินใจชมพลุที่จุด West Circular Quay ซึ่งสามารถมองเห็น Opera House และสะพาน Sydney Harbour Bridge ได้ในจุดเดียว 

 

DSC 0108

 

เมื่อเราเข้ามาถึงในพื้นที่ เราก็ได้พบกับผู้คนจากทุกสารทิศเข้ามารอดูการแสดงเป็นจำนวนมาก และพื้นที่ได้ถูกจับจองกันแทบจะไม่เหลือที่ว่าง..จนสุดท้ายเราต้องขอนั่งแทรกกับกลุ่มที่เค้ากำลังนั่งตั้งวงไพ่ รอดูพลุเหมือนกัน

 

DSC 0115

 IMG 7167

(เซลฟี่กับ Landmark ประเทศอย่าง Sydney Opera House ซะหน่อย)

 

ก่อนฟ้าเริ่มมืด เวลา 6 โมงเย็น ก็มี Pre-show entertainment ขับเครื่องบินผาดโผนให้ชม ซึ่งหวือหวาและเรียกเสียงปรบมือได้อย่างเกรียวกราว

 

DSC 0124

1504157500-pre-show-entertainment

(ภาพเพิ่มเติมจาก www.sydneynewyearseve.com/fireworks/

 

ฟ้าเริ่มมืด ใกล้ถึงเวลาโชว์รอบแรก โดยการแสดงพลุจะมี 2 รอบ รอบแรกเรียกว่า Family firework เป็นการแสดงโชว์พลุทั้งหมด 8 นาที และอีกรอบคือเที่ยงคืนตรง หลัง Countdowm เข้าปีใหม่ โดยแสดงเป็นระยะเวลา 12 นาที ซึ่งทั้งสองช่วงเวลา สามารถชมถ่ายทอดสดได้ที่บ้านเช่นกัน

 

 

ณ สามทุ่มตามเวลาท้องถิ่น พลุชุดแรกจัดแสดงได้อย่างสวยงามสมการรอคอย ผู้ชมต่างยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปอย่างพร้อมเพรียง บางคนก็ยกไม้เซลฟี่เพื่อเก็บภาพวิดิโออย่างเต็มรูปแบบ คนเตี้ยอย่างเราก็ต้องชูแขนสุดมือเพื่อเก็บภาพบรรยากาศเหมือนกัน

 

DSC 0153

 

หลังจากโชว์ชุดแรกจบไป ก็ต้องรออีก 3 ชั่วโมงเพื่อชมการแสดงพลุสุดตระการตาที่เรารอคอย

ระหว่างนี้เอง สำหรับใครที่หิว แถว ๆ นั้นก็มี Food Truck คอยให้บริการ แต่บอกก่อนเลยว่าบริเวณนี้เครื่องดื่มแอลกฮอลล์ไม่มีขายและไม่สามารถนำเข้ามาในพื้นที่ได้ หากตำรวจเห็นมีโดนปรับนะจ๊ะ ใครหิวน้ำก็กินน้ำเปล่าน้ำหวานกันไป ส่วนพวกเรานั้น หลังจากผ่านค่ำคืนอันยาวนานและอันเหนื่อยล้ามาทั้งวัน ระหว่างนี้ขอล้มตัวลงนอนมันตรงพื้นเลย โนสนโนแคร์ นอนขดตัวเอากระเป๋าหนุนหัว ลมโกรกมาเราก็นอนตัวสั่น ๆ จนใกล้ถึงเวลาแสดงโชว์ ผู้คนต่างตื่นเต้น ยืนรอการแสดงอย่างคับคั่ง

 

DSC 0155

 

เที่ยงคืนตรง สิ้นสุดการรอคอย พลุลูกแรกได้ประทุขึ้น และตามมาด้วยพลุอีกนับร้อยพัน หลากสีสันเต็มท้องฟ้าอย่างบ้าคลั่ง นับเป็นการแสดงพลุที่สวยงาม ยิ่งใหญ่และตระการตาที่สุดในชีวิตที่เคยสัมผัส พวกเราต่างกอดกันตัวกลม พร้อมเอ่ยคำแรกในปี 2018 ว่า “Happy New Year”

เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปรวดเร็ว เมื่อสิ้นเสียงพลุ ก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดเกรียวกราว นับเป็นการ Countdown ครั้งแรกในชีวิตร่วมกับผู้จำนวนหลักล้าน!!

 

 

หลังจากได้เต็มอิ่มจากการชมแสดง พวกเราหันกลับมาถามกันเองอีกครั้ง “คืนนี้เรานอนไหนกันดีวะ...” แต่ก่อนอื่นเราต้องรีบเอารถออกจากอาคารที่จอดรถก่อน (เพราะหากจอดเลยตีหนึ่งครึ่ง จะต้องจ่าย $60!) และขับตระเวนหาที่พักราคาถูกทั้งในเมืองและโดยรอบ จนพวกเราไปจบที่บริเวณ Bondi Beach ซึ่งเป็นชายหาดที่ไม่ไกลจากตัวเมือง สามารถขับรถไปได้ประมาณ 15-20 นาที

 

DSC 0224 

เช้าใหม่ของวันแรกในปี 2018 พวกเราตื่นมาเดินเล่นริมหาด Bondi พร้อมกับชาวออสซี่จำนวนมากที่มาเล่น Surf และอาบแดด นับเป็นเริ่มต้นเช้าที่บรรยากาศดีมาก หลังจากพวกเราซึมซับชายหาดและน้ำทะเลจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลากลับบ้าน Brisbane ของเรา รอบนี้เราผลัดกันขับ 2 คนแทน เราเริ่มในเวลา 10.30 โดยประมาณ โดยวิ่งกลับเส้นทางเดิม คือ Pacific Highway 

 DSC 0253

DSC 0249 

ระหว่างทางในช่วงแรกก็ยังโอเคอยู่ แดดแรง มีเมฆบ้าง มีฝนตกเป็นบางส่วน แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เริ่มขึ้น ฝนเริ่มตกหนักมากขึ้น มากขึ้น...จนกลบเส้นทางข้างหน้าทั้งหมดจนเป็นสีขาว เหลือเพียงไฟกระพริบจากรถด้านหน้าให้เห็นเป็นระยะ ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตกบนลงหลังคารถ มากขึ้น มากขึ้น จนมองเห็นว่า เฮ้ย นี่มันฝนลูกเห็บนี่หว่า!!! เราตัดสินใจจอดรถไหล่ทางทันที เนื่องจากหวาดระแวงกับเสียงมาก เพื่อนเลยอาสาขับให้แทน พวกเราจึงค่อย ๆ ขับชะลอ ๆ ตามรถคันด้านหน้าไป และจอดพักบ้างเป็นบางจุด ใช้เวลาทั้งสิ้นนับชั่วโมงกว่าพายุลูกเห็บจะบางเบาลงและหยุดตกในที่สุด

 

 DSC 0290

(พายุพัดแรงจนต้นไม้ล้มขวางทางถนนเป็นระยะ) 

 

เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นปกติ ก็ได้พักรถบริเวณถนนที่แยกออกจากเส้นหลัก พร้อมเปลี่ยนผลัดมาเป็นเราขับอีกครั้ง แต่เมื่อเราขับไปสักพัก ก็เริ่มรู้ตัวว่าขับเส้นเข้า Sydney จึงมองหาทางกลับรถ และเวลาก็ร่วงเลยมาถึง 4 โมงเย็น เพื่อนในทีมต้องไปทำงานในเมืองเวลา 1 ทุ่ม เราจึงรีบขับทำเวลา จนมาถึงทางเบี่ยงกลับรถ ซึ่งการที่ขับมาด้วยความเร็วระดับนึงและเป็นทางชนบทไม่มีรถผ่าน จากความเคยชินเลยหักเลี้ยวทันทีเมื่อเจอทางแยก และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง รถตำรวจเปิดไซเรนขับประกบหลังเรามาติด ๆ !! เราตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูกจึงจอดรถข้างทาง พร้อมกดกระจกลง...พี่ตำรวจหน้าดุก็ยื่นหน้าเข้ามาถามว่า “คุณเห็นป้าย Stop สีแดงมั้ย ตรงทางแยกที่คุณเลี้ยวมา” เออ..เรามองไม่เห็นเลยนี่หน่า แต่พอเค้าชี้นิ้วไปเท่านั้นแหละ...ป้ายแดงชัดเจนแจ่มแจ้ง เพื่อนทุกคนในรถต่างไม่มีใครสังเกตเห็นเช่นกันเพราะต่างมองหาทาง U-turn จากนั้นพี่ตำรวจก็ได้ขอดูใบขับขี่ไทย(ซึ่งใช้ได้นะเค้าไม่ได้ติดอะไร)​ และเล่ม Passport ตัวจริง รวมถึงตรวจเป่าแอลกฮอลล์เพื่อเช็คว่าเราไม่ได้เมาแล้วขับนะ

หลังจากหยิบเอกสารของเราไปคีย์ข้อมูลผ่านระบบ และกลับมาอีกครั้งพร้อมแจ้งค่าเสียหายจำนวนทั้งหมด $330!! พร้อมกล่าวตักเตือนอีกเล็กน้อย โดยใบเสร็จจะส่งมาให้ที่บ้านพร้อมกับอีเมลล์ยืนยัน..หลังจากได้ยินค่าเสียหาย ก็ซีดกันหมดทั้งคันรถ ขับรถที่ไทยยังไม่เคยเจอใบสั่ง จนได้มาเจอใบสั่งใบแรกในชีวิตในต่างเมืองนี่แหละ

26172573 10156392719968968 2594066030123230074 o

(หน้าตาใบสั่งที่ส่งมาถึงบ้านอย่างรวดเร็วจ้า...)

 

แม้ว่าจะเครียด แต่อย่างน้อยเราก็ยังได้เห็นพระอาทิตย์เริ่มตกดินอยากสวยงามในเส้นทางกลับบ้าน

 

DSC 0329

 

จบทริปไปสำหรับทริปด่วน Sydney ซึ่งใช้เวลาในเมืองทั้งหมด 24 ชม. และใช้เวลาขับรถทั้งหมด 24 ชม. นับเป็นทริปที่ได้พบเจอทั้งความสุข ความสวยงาม ความอลังการ ความง่วง รวมไปถึงบทเรียนอันแสนราคาแพง (เหยียบหมื่น) ครั้งแรกในต่างแดนครั้งแรกในชีวิต...

 

Tips : สำหรับชาว Brisbane ใครที่อยากขับรถข้ามรถไป Sydney นับเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ แต่ต้องอึดและถึกนิดนึง เพราะเส้นทางไป-กลับรวมทั้งสิ้น 1,900 กม. แต่เราจะพบกับป่าเขาและต้นไม้สองข้างทางอันสวยงาม รวมไปถึงคุณภาพถนนเรียกได้ว่าเรียบเนียนยิ่งกว่าผิวหน้า ไร้ขรุขระ และป้ายบอกทางต่าง ๆ ชัดเจนแม้ในยามค่ำคืน ขับง่าย ขับสบาย โดยเฉพาะป้ายควบคุมความเร็วที่จะเห็นทุก ๆ กิโลฯเลยก็ว่าได้ อย่าลืมทำตามกฏอย่างเคร่งครัดล่ะ ไม่งั้นจะโดนปรับตัวซีดเหมือนเรา...
ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 19 ม.ค. 2018
Yingg Is

ไปได้ทุกที่ ยกเว้นบ้าน