"รวบรวมสิ่งที่น่าสนใจ ในเมือง Brisbane ผ่านตัวอักษร A-Z"
“Brisbane” เมืองเล็ก ๆ ที่แสนเต็มเปี่ยมไปด้วยสเน่ห์อันยิ่งใหญ่ ไม่ว่าบรรยากาศ กิจกรรม วัฒนธรรม ผู้คน และการใช้ชีวิต ที่แห่งนี้ ได้รวบรวมความน่าสนใจต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน โดยครั้งนี้เราจะมาไล่เรียงกัน ตั้งแต่ A-Z ให้จุใจเลย โดยตอนแรกจะขอเล่าตั้งแต่ A-I ก่อน ว่าแต่จะน่าสนใจแค่ไหน ติดตามกันได้เลย
A : Art And Galleries
ความหลากหลายของงานศิลปะและแกลเลอรีต่าง ๆ ในบริสเบนนั้น ไม่น้อยหน้าเมืองใหญ่ ๆ เลย โดยเฉพาะย่าน South Bank ที่ตั้งของ Gallery of Modern Art (GOMA) และที่อยู่ติดกันคือ Queensland Art Gallery (QAG) หรือเราจะเรียกทั้งสองแห่งนี้ว่า QAGOMA ทั้งสองคือแกลเลอรีที่รวบรวมงานศิลปะ ที่บอกเล่าเรื่องราวของประเทศออสเตรเลียและประวัติศาสตร์ในอดีต และมีงานศิลปะอื่น ที่จัดแสดงหมุนเวียนให้ชมกัน ทั้งงานระดับ Local จนไปถึงงานระดับโลก ซึ่งผลงานของศิลปินบางท่าน เราอาจจะไม่ได้เห็นในประเทศไทยด้วยนะ นับเป็นโอกาสดี ที่ได้มาสัมผัสผลงานศิลปะด้วยตาตัวเอง รวมไปถึงโปรเจค “Brisbane street art festival” ที่รวบรวมศิลปิน Graffitis หลากหลายสไตล์ มาสร้างสรรค์ผลงานรอบเมือง ตั้งแต่ย่าน Fortitude Valley หรือ South Brisbane ซึ่งเราจะพบเห็น Street Art ตามจุดต่าง ๆ รอบเมือง เก็บเป็น Chek point ถ่ายรูปไปอีก ตามหาจุดต่าง ๆ ได้ที่ http://bsafest.com.au/
(หนึ่งในส่วนของงานศิลปะที่จัดแสดงถาวรใน QAGOMA)
กิจกรรมยอดฮิตในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ของชาว Brisbane หนีไม่พ้นการพบปะเพื่อนฝูงพร้อมปิ้งบาร์บีคิวตามพื้นที่สาธาณะ ซึ่งเราจะเห็นเตาบาร์บีคิวตั้งอยู่ตามสวนสาธารณะต่าง ๆ เช่น บริเวณใกล้ ๆ สระเด็กที่ South Back Parkland หรือสถานที่ยอดฮิตอย่าง Roma Street ซึ่งมีพื้นที่สำหรับบาร์บีคิวแยกส่วนออกมา ท่ามกลางต้นไม้และสนามหญ้าที่สามารถออกไปวิ่งหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ด้วย
C : CityHopper & CityCat Transportation
ในระหว่างที่รถไฟฟ้า BTS เป็นการขนส่งมวลชนหลักในกรุงเทพฯ ที่บริสเบนเองนอกจากจะมีทั้งรถบัสและรถไฟแล้ว ก็มียังมีการสัญจรทางเรือเป็นอีกรูปแบบการเดินทางที่ทั้งสะดวกสบาย แถมบรรยากาศดี๊ดี ด้วยวิวริมฝั่งแม่น้ำ Brisbane ซึ่ง "CityCat" คือ เรือสัญจรในบริสเบน ที่วิ่งตั้งแต่ UQ St Lucia จนไปถึง Northshore Hamilton และ “City Hopper” เป็นเรือสัญจรสีแดง ที่สามารถขึ้นลงฟรี และวิ่งตั้งแต่ North Quay ในเมือง จบถึงท่าเรือ Sydney ในย่าน New farm นั่นเอง โดยเฉพาะตอนเย็น ๆ ได้นั่งบนเรือในช่วง Magic Hour ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้านี่ เพอร์เฟคสุด ๆ
D : Drink It Up In The Nightlife
(ที่มาภาพ : https://www.visitbrisbane.com.au/information/articles/eat-and-drink/brisbane-best-bars?sc_lang=en-au)
เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แสงไฟยามค่ำคืนก็เข้ามาแทนที่ ย่านกินดื่มอย่าง Fortitude Valley และย่าน West End ก็คึกคักขึ้นมาในทันที โดยเฉพาะคืนวันศุกร์ เสาร์ ย่านนี้มีทั้งร้านกินดื่มนั่งสบาย ๆ จะ Rooftop Bar วิวดาดฟ้า หรือจะเต้นให้มันส์สุดเหวี่ยงในผับ และยังมีอีกหลากหลาย Nightlife Spots ให้ได้ออกไปสัมผัสประสบการณ์ยามราตรี เช่น ร้านกินดื่มเห็นวิวแม่น้ำที่ Eagle Street Pier หรือจะ Irish Bar ที่ Caxton Street หากไม่รู้จะไปไหน ก็ลองเดินชิว ๆ ผ่านแสงไฟยามค่ำคืนของบริสเบนไปเรื่อย ๆ จะพบร้านน่านั่งมากมายแถมอาจจะได้พบเพื่อนใหม่อีกด้วยนะ
E : Eat Like ‘Brissie' At Eat Street North Shore
( ที่มาภาพ : http://www.mustdobrisbane.com/archives/white-christmas-july-eat-street-northshore )
วัฒนธรรมอาหารในบริสเบนนั้น มีทั้งความหลากหลายและความน่าสนใจ ตั้งแต่อาหารจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี หรือแม้แต่อาหารกรีก, อินเดีย, เนปาล ฯลฯ หากจะหาร้านกินทั้งหมดในเมืองคงจะเหนื่อยไป แต่ที่ "Eat Street Northshore" เป็น Street Food Market ย่าน Eagle Farm ที่รวบรวมร้านอาหารนานาชาติทั่วโลกมากกว่า 70 ร้านค้า ได้แก่เมนู Hungarian langos, Peruvian paella หรือ Greek honey puffs and decadent doughnuts บางเมนูนี่ไม่เคยลิ้มรสมาก่อน วิธีเดินทางก็แสนง่าย ด้วย CityCat ลงสุดป้าย ที่ท่าเรือ Northshore Hamilton หรือว่าจะนั่งรถเมล์ไปก็ได้ นัดเพื่อน ๆ ไปลิ้มลองอาหารหลากหลายสัญชาติได้ในวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป และวันอาทิตย์ตั้งแต่เที่ยงวัน (เวลาอาจปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล) สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.eatstreetmarkets.com
F : Fishing With Breathtaking Scenery
G : Get into Brisbane History
(ที่มาภาพ : http://makework.com.au/100-brisbane/ )
อีกทั้ง ที่นี่ยังมี “Clock Tower Tours” ทัวร์ที่พาเราขึ้นไปชมด้านบนของหอนาฬิกา สัญลักษณ์ของเก่าแก่ของเมืองบริสเบนได้ฟรีอีกเหมือนกัน โดยจะเปิดเป็นรอบ ๆ รอบละประมาณ 15 นาที ไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ ที่คอยเล่าประวัติและความเป็นมาในการสร้างหอนาฬิกาแห่งนี้ สามารถขึ้นไปดูได้ทุกวัน ตั้งแต่ 10.15 น. จนถึง 16.45 น. สามารถอ่านข้อมูลและรายละเอียดได้ที่ www.museumofbrisbane.com.au/whats-on/clock-tower-tours/
H : Hot And Humid Weather
เวลาที่ใคร ๆ ถามว่า อากาศที่บริสเบนเป็นอย่างไร เราคนนึงขอยกมือสุดใจเลยว่า “เหมือนประเทศไทยชัด ๆ ” ยิ่งเฉพาะฤดูร้อน แดดที่นี่แสนจะแร๊งแรง แถมเมฆน้อย ฟ้าใสซะเหลือเกิน จะกางร่มทีมองไปรอบ ๆ ก็เห็นแต่คนใส่แว่นกันแดดพร้อมใจมารับแดดกันถ้วนหน้า จึงไม่แปลกใจที่เมืองนี้จะมีชายหาดจำลองอย่าง South Bank Parklands ที่ให้ผู้คนออกมาอาบแดดและเล่นน้ำในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำ Brisbane โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ที่นี่จะแน่นขนัดไปด้วยชาวออสซี่และไม่ออสซี่ ต่างออกจากบ้านมาพร้อมกับผ้าปู ขนมและหนังสือดี ๆ ติดมือ แผ่ตัวรับแดดได้ทั้งวัน หรือถ้าไม่อยากอาบแดด ก็สามารถนั่งสบาย ๆ ในร้านกินดื่ม ในบริเวณรอบ ๆ และเดินชมตลาด Handmade อย่าง The Collective Markets ที่ขายสินค้าน่ารัก ๆ ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.collectivemarkets.com.au
อีกหนึ่งแหล่งที่ท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางไปได้ง่าย ๆ ก็คือเกาะต่าง ๆ รอบนอกเมืองนั่นเอง ที่เดินทางช่วงเช้า ไปถึงช่วงบ่าย ง่ายเหมือนไปเกาะเสม็ด แต่ความสวยงามนี่เทียบกันไม่ติด ได้แก่ North Stradbroke Island เกาะที่เดินทางไปได้ แม้ไม่มีรถยนต์ จะค้างคืนสักคืนก็น่าสนใจ หรือจะเกาะยอดฮิตอย่าง Moreton Island ที่สามารถซื้อทัวร์ได้แบบ 1 day trip ซึ่งในทริปยังรวมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เล่นได้ในเกาะ อาทิ Kayaking, Snokling และ Sand Boarding และหากใครที่อยากค้างคืน ในตอนหัวค่ำสามารถออกมาให้อาหารปลาโลมาบริเวณน้ำตื้น ๆ ริมหาดได้อีกด้วยแหละ ซึ่งเราไปมาแล้วแบบ 1 day trip ทั้งวิวสวย น้ำใส และประทับใจ ควรค่าแก่การท่องเที่ยวมาก อ่านเรื่องราวของเราได้ ที่นี่..
( สันทรายอันกว้างใหญ่บนเกาะ Moreton Island )
หมดไปสำหรับสิ่งที่น่าสนใจในบริสเบน ผ่านตัวอักษร A-I ตอนต่อไปเราจะมาเรียนรู้เมืองนี้ ผ่านตัวอักษร J-Q กัน มาดูซิว่า ยังมีอะไรให้เราทำความรู้จักเพิ่มเติมอีกบ้าง
ติดตามได้ในตอนต่อไปจ้า..
