มาต่อกันกับ Q150 ตอนที่ 2 ผ่านไปแล้วกับ 5 หมวดหมู่ในตอนแรก คราวนี้มาต่อกันอีก 5 หมวดหมู่สุดท้าย แต่ก่อนอื่นเรามีเรื่องน่ารู้ของ Q150 ในเมืองบริสเบนให้เพื่อน ๆ ได้รู้กัน
ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Q150
ใครที่คุ้นเคยกับมหาวิทยาลัย Queensland University of Technology หรือ QUT ที่อยู่ติดกับ Brisbane City Botanic Gardens อาจจะเคยเดินผ่านประติมากรรมแท่นหนึ่ง ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าอาคาร Old Government House มีป้ายจารึกว่า “Queensland 1859-2009” ซึ่งจำนวนตัวเลขหักลบกันไป 150 พอดี ประติมากรรมชิ้นนี้ ตั้งไว้เพื่อเป็นจารึกของการจัดขึ้น Q150 นั่นเอง
หมวดหมู่ Structures and Engineering Feats : โครงสร้างทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม
St John's Cathedral (Brisbane)
ที่มาภาพ : wikimedia.org
ใครที่เดินผ่านไปมาในเมืองอยู่บ่อย ๆ คงต้องเดินผ่านโบสถ์ St John's Cathedral กันบ้างแหละ แต่เพื่อน ๆ ทราบมั้ย ว่าโบสถ์นี้มีเรื่องราวและมีที่มาอย่างไร “St John's Cathedral” ตั้งอยู่บนถนน Ann St. เริ่มต้นสร้างขึ้นเมื่อปี 1906 ใช้เวลา 4 ปีในการสร้าง ต่อมาได้มีการกแต่งและบูรณะโครงสร้างให้สวยงามและละเอียดอ่อนมากยิ่งขึ้น โดยมีการปรับปรุงล่าสุดเมื่อปี 2009 โบสถ์แห่งนี้เป็นการออกแบบในสไตล์ Gothic โดย John Loughborough Pearson สถาปนิกชาวอังกฤษผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบในยุคศตวรรษที่ 19 ความพิเศษของโบสถ์แห่งนี้ คือการผสมผสานความเป็นบริสเบนเข้าไปด้วยกัน ด้วยการใช้หิน Brisbane Tuff เป็นวัสดุภายนอกอาคาร ซึ่งมันคือหินภูเขาไฟที่มีสีสันต่าง ๆ เกิดขึ้นจากแร่ธาตุ พบได้แค่ที่บริสเบนเท่านั้น อีกทั้งงานนี้เป็นการร่วมมือของพระสงฆ์, ช่างหิน และสถาปนิก เป็นเวลาถึง 100 ปี เลยทีเดียว
Story Bridge
ที่มาภาพ : createdigital.org.au
หากพูดถึงการสัญจรไปมาภายในเมือง เชื่อว่าชาวบริสเบนต้องมีโอกาสใช้งานสะพานแห่งนี้ หรือแม้แต่ผู้คนที่เดินทางโดยเรือ ก็ต้องได้ชำเลืองมองสะพานอยด้านบน “Story Bridge” สะพานแห่งเรื่องราวนี้ ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของเมือง (Heritage List) เป็นสะพานเหล็กที่ออกแบบมาเพื่อให้ยานพาหนะสัญจรไปมา ด้วยความยาว 777 เมตร ซึ่งยาวที่สุดในประเทศ วัตถุประสงค์แรกของการสร้างสะพานนี้ คือเพื่อต้องการสัญจรไปมาระหว่างใจกลางเมือง ไปมาย่าน Kangaroo Point และเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม 1940 ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากการใช้งาน Victoria Bridge สะพานที่เชื่อมต่อระหว่างใจกลางเมืองไป South Brisbane นั่นเอง เรียกได้ว่า Story Bridge เป็นสะพานแห่งที่สองของเมือง โดยชื่อแรกที่ถูกตั้งขึ้นคือ “Jubilee Bridge” ตั้งเพื่อเป็นเกียรติให้กับ King George V หลังจากเปิดใช้งานไม่นาน ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นชื่อ “Story Bridge” ที่ไม่ได้แปลว่ามีเรื่องราว แต่เป็นการให้เกียรติ John Douglas Story บุคคลสำคัญผู้ที่ทำให้สะพานแห่งนี้เกิดขึ้นได้จริง ด้วยการสนับสนุนของท่านนั้นเอง
หมวดหมู่ Defining Moments : เหตุการณ์สำคัญของเมืองที่จารึก
World Expo 88
ที่มาภาพ : bie-paris.org
ที่มาภาพ :content.api.news
หรือจะเรียกสั้น ๆ ว่า “Expo 88” จัดขึ้นในปี 1988 ปีที่เมืองบริสเบนได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพงานเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 30 เมษายน จนถึง 30 ตุลาคม โดยแนวคิดของงานคือ "Leisure in the Age of Technology" โดยใช้เจ้าตัวตุ่นชื่อว่า “Expo Oz” เป็นมาสคอตประจำงาน ความสำคัญของปี 1988 ไม่ได้มีแค่นี้ แต่เป็นปีเฉลิมฉลองที่ครบรอบ 200 ปี (Bicentennial celebrations) ที่ชาวอังกฤษเดินทางขึ้นมาบนเกาะออสเตรเลียเป็นครั้งแรกในปี 1788 งาน Expo 88 มีผู้เข้าร่วมมากถึง 15,760,000 คนจากทั่วโลก ใช้เงินลงทุนไปมากถึง 625 ล้านเหรียญออสเตรเลียเลยทีเดียว หนึ่งในความยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในงาน คือการสร้างรถไฟรางเดี่ยว (Monorail) ที่วิ่งภายในงาน เมื่อเทียบกับผลตอบรับที่ได้ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะนอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในเมืองแล้ว ก็ได้เป็นการโปรโมตการท่องเที่ยวใน Queensland ไปในตัว และอีกไม่กี่ปี เมืองบริสเบนของเรา ก็จะได้เป็นเจ้าภาพงานมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิก ในงาน Brisbane 2032 อยากรู้ว่าเมืองของเรา ได้เตรียมพร้อมอะไรอยู่บ้าง อ่านต่อได้ที่นี่เลย
หมวดหมู่ Innovations and Inventions : สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์
Billabong
ที่มาภาพ : billabong.com
สายลม แสงแดด และ Surfing คือส่วนหนึ่งในวิถีชาวออสซี่ โดยเฉพาะชาว Queensland สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจ ที่ทำให้เกิดแบรนด์เสื้อผ้าสินค้าแฟชั่นสไตล์สปอร์ตอย่าง “Billabong” กับโลโก้สุดวัยรุ่น ที่สื่อถึงคลื่นทะเลตามแนวคิดของแบรนด์ ด้วยลวดลายที่สดใส เหมาะกับการไปทะเลอย่างยิ่ง แบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1973 ที่เมือง Gold Coast โดยคำว่า Billabong นั้น ดัดแปลงมาจากศัพท์ของชนเผ่า Wiradjuri เป็นหนึ่งในกลุ่มภาษาของชาว Aboriginal เป็นคำที่มีความหมายว่า “ช่องแคบที่มีน้ำไหลผ่านในช่วงฤดูฝน” นั่นเอง ใครที่มองหาไอเทมเท่ ๆ ไว้ใส่ไปทะเล หรือจะเป็นกระเป๋า รองเท้าสดใสล่ะก็เข้าร้านนี้ไป รับรองว่าห้ามเงินในกระเป๋าไว้ไม่อยู่เลย
Dingo fence
ที่มาภาพ : dailymail.co.uk
ที่มาภาพ : atlasobscura.com
เวลาขับรถออกนอกเมือง ตามทุ่งกว้างสามารถพบเห็นแนวรั้วกั้นเพื่อแบ่งพื้นที่หรือป้องกันสัตว์เป็นปกติ แต่ “Dingo Fence” เป็นแนวรั้วที่มีความพิเศษตรงที่ความยาวของรั้วนี้ ยาวถึง 5,614 กิโลเมตร ยาวข้ามรัฐกันเลย! ว่าแต่ทำไมถึงต้องยาวขนาดนั้นล่ะ? ใครที่เคยได้ไปเยือนเกาะ Fraser Island คงจะคุ้นชื่อกับเจ้า “Dingo” สิ่งมีชีวิตสี่ขาประจำเกาะที่หน้าตาละม้ายคล้ายุสนัขทั่วไป แต่ดุร้ายประหนึ่งหมาป่า ถึงกับต้องมีป้ายเตือนทั้งเกาะว่า “ห้ามเข้าใกล้" ซึ่งนอกจากบนเกาะที่เป็นบ้านของพวกมันแล้ว บนแผ่นดินประเทศโดยเฉพาะพื้นที่นอกตัวเมือง ก็เป็นบ้านของเจ้า Dingo เช่นกัน ทำให้สร้างความอันตราย ทั้งกับผู้คน โดยเฉพาะสัตว์ที่เลี้ยงในพื้นที่ เช่นแกะในทางตอนใต้ของประเทศในรัฐ New South Wales ทำให้ในช่วงปี 1800 เกิดแนวคิดที่สร้างแนวกั้นเพื่อป้องกันการทำลายล้างของสัตว์ชนิดนี้นั่นเอง “Dingo Fence” ถือเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้าง ที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เริ่มต้นรั้วจากย่าน Jimbour ใน Queensland ยาวลงไปซ้ายล่าง จนไปจบบริเวณ Eyre Peninsula ใน South Australia แม้ว่าการสร้างนั้น จะทำให้เกิดผลกระทบทางชีววิทยาอื่น ๆ อาทิเช่น การลดลงของจิงโจ้และอีมู ในทางตอนบน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ Dingo หนาแน่น แต่ถึงกระนั้นเอง ก็ช่วยการแพร่กระจายของ Dingo ได้ ในปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย ที่สามารถควบคุมการเพิ่มจำนวนของสิ่งมีชีวิตแทนการใช้รั้วกั้นแล้ว แต่ Dingo Fence นี้ ก็คือสิ่งก่อสร้างที่ทำให้เราได้ระลึกถึงความพยายามของมนุษย์ในอดีตนั่นเอง
หมวดหมู่ Events and Festivals : อีเวนท์และเทศกาลประจำปี
Toowoomba Carnival of Flowers
ที่มาภาพ : southernqueenslandcountry.com.au
เทศกาลดอกไม้ประจำปี ที่จัดขึ้นใน Toowoomba ที่ขับรถออกไปจากตัวเมืองบริสเบนเพียงชั่วโมงครึ่ง นี่คือเทศกาลที่รวบรวมพันธุ์พืชดอกไม้นานาชนิด จัดแสดงในสวนสาธารณะ และตามท้องถนนตลอดทั้งเมือง งานนี้จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1950 ช่วงเดือนตุลาคม ตรงกับช่วงฤดูใบไม้ผลิพอดี Laurel Bank Park คือสวนสาธารณะแห่งใหญ่ใจกลางเมือง ที่เป็นจุดไฮไลท์สำคัญของเทศกาล ที่ใคร ๆ ก็ต้องแวะมาชมความสวยงาม นอกจากนี้ยังมีงานพาเหรดที่โชว์การตกแต่งและจัดแสดงดอกไม้เคลื่อนที่ รวมไปถึงดนตรีสดที่จัดขึ้นแบบ Outdoor สร้างสีสันและความสนุกสนาน แถมยังทำให้เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้คึกคักมีชีวิตชีวาขึ้น จากนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาชม ซึ่งในช่วงสองปีที่ผ่านมา อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศเกิดภาวะโรคระบาดครั้งใหญ่ ทำให้งานถูกเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด แต่ด้วยสถานการณ์ที่ดีขึ้นในปัจจุบัน ปี 2022 นี้ งาน Toowoomba Carnival of Flowers จะกลับมาจัดขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 1-30 กันยายน ช่วงปลายปี อากาศดี ๆ แบบนี้ พลาดไปเสียใจแย่
Riverfire
ที่มาภาพ : brisbanefestival.com.au
ทุกเดือนกันยายนของทุกปี มีวันสำคัญวันหนึ่งที่จัดขึ้นแทบจะตลอดทั้งเดือน นั่นก็คืองาน “Brisbane Festival” เทศกาลแห่งความบันเทิงที่จัดแสดงทั้งดนตรี, ศิลปะ, เต้นรำ ในหลากหลายรูปแบบ อีกหนึ่งงานย่อยภายในเทศกาล ที่ผู้คนต่างรอคอยกันก็คือ "Sunsuper Riverfire” หรือเรียกย่อ ๆ ว่า Riverfire ซึ่งเป็นโชว์แสดงแสงสีการจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่ ตลอดแนวแม่น้ำบริสเบน ซึ่งมีจุดชมที่ยอดฮิตคือบริเวณ South Bank Parklands ยาวไปถึง Victoria Bridge นอกจากนี้ยังมีโชว์เครื่องบินผาดโผนด้วย F-111 แบบ Dump-and-Burn ซึ่งปีนี้งานจะจัดขึ้นในคืนวันที่ 3 กันยายนนี้ เทศกาลนี้ทำให้ทั้งเดือนกันยา กลายเป็นช่วงเวลาที่มีความคึกคัก ก่อนเข้าสู้หน้าร้านในอีกไม่กี่เดือน
หมวดหมู่ Typically Queensland : แบรนต์, วลี, บทเพลง, พันธุ์พืช ฯลฯ ที่บ่งบอกถึงความท้องถิ่นประจำรัฐ
Queenslander House
ที่มาภาพ : realestate.com.au
ที่มาภาพ : traditionalqueenslanders.com.au
ชื่อลักษณะโครงสร้างบ้านเดี่ยว ที่สามารถพบเห็นได้ตามชุมชนในรัฐ Queensland มีความโดดเด่นตรงที่ใต้ถุนบ้านที่ยกพื้นสูง เพื่อรองรับเหตุการณ์พายุและฤดูฝนที่เกิดทุกปี (โดยเฉพาะปีนี้) อีกทั้งยังมีระเบียงด้านบน ช่วยรับลมในวันที่อากาศร้อนได้ โครงสร้างหลักใช้วัสดุก่อสร้างจากไม้ และที่เห็นได้ชัดจากภายนอก คือการใช้หลังคาทรงจั่วสูง เพื่อระบายความร้อน รวมไปถึงขอบใต้หลังคา ที่มีการฉลุลวดลายที่แตกต่างกันไปในแต่ละหลังนั่นเอง ซึ่งบ้านรูปแบบนี้ ก็มีสไตล์การออกแบบย่อยลงมาอีก ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ Federation หรือจะเป็นแบบ Victorian ต่างกันที่ดีเทลการออกแบบ
Maroon
ที่มาภาพ : flickr.com
ที่มาภาพ : couriermail.com.au
ไม่ได้หมายถึงชื่อวงดนตรี แต่มันคือชื่อสีชนิดหนึ่งที่ออกโทนน้ำตาลแดงของเม็ดเกาลัคนี่เอง ความเกี่ยวข้องของสีนี้กับ Queensland ตรงที่เราใช้สีนี้เป็นสีประจำของรัฐ โดยถูกกำหนดในเดือนพฤศจิกายนของปี 2003 เราสามารถพบเห็นการใช้สี Maroon นี้ได้ ตามชุด Uniform นักเรียน, เสื้อนักกีฬา, ตราสัญลักษณ์ รวมไปถึงสีตัวเลขบนป้ายทะเบียนรถยนต์นั่นเอง
Cane Toad
ที่มาภาพ : businessofstory.com
คือชื่อคางคกประเภทหนึ่ง ที่พบเห็นได้มากในรัฐนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นชื่อเรียกของสิ่งมีชีวิตแล้ว “Cane Toad” คือคำแสลงที่หมายถึงผู้คนที่มาจาก Queensland นั่นเอง และเนื่องจากประชากรเจ้าคางคกชนิดนี้มีค่อนข้างหนาแน่น ที่เมือง Townsviile จึงมีงาน “Toad Day Out” เป็นจับคางคกประจำปี ที่จัดขึ้นภายในเมืองทุกวันที่ 29 มีนาคม วัตถุประสงค์ไม่ได้จะมาปลดชีวิตน้อง แต่เป็นการสอนให้คนในชุมชน โดยเฉพาะเด็ก ๆ เรียนรู้วิถีการจับเจ้า Cane Toad อย่างถูกต้อง ด้วยการแข่งขันกันออกไปจับเค้า Cane Toad ที่คิดว่ามีน้ำหนักมากที่สุด ใครจับมาได้ตัวใหญ่ที่สุด มีรางวัลให้อีกด้วย ซึ่งคางคกที่หนักที่สุดที่ถูกจับได้ มีน้ำหนักมากถึง 143.6 กิโลกรัม!!!
ซึ่งรายการทั้งหมดใน Q150 นั้น ไม่ได้อยู่แค่ในห้องสมุดประจำเมือง State Library of Queensland เพียงอย่างเดียว
แต่ข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกบันทึกเป็น Time Capsule และถูกฝังไว้ภายใต้แท่นจารึกที่ตั้งอยู่ใน QUT อีกด้วย โดยมีกำหนดการเปิด Time Capsule นี้ในปี 2059 อีก 37 ปี ตอนนั้นเพื่อน ๆ จะอายุเท่าไหร่กัน ไว้อีก 37 ปีเรามาเปิดไปพร้อมกันนะ
