สั่งพิมพ์หน้านี้

พูดคุยกับหนุ่มไฟแรงแห่งวงการแต่งรถ อิน-กษิดิศ เจ้าของ HITz supercar Tuning

เผยแพร่เมื่อ 03 ธ.ค. 2015 ผู้เขียน
ได้รับการยอมรับว่าเป็น หนุ่มหล่อไฮโซ ที่อายุน้อยแต่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก กับธุรกิจแต่งรถระดับแถวหน้าของเมืองไทย HITz supercar Tuningคุณอิน กษิดิศ เกษมสันต์ ดุลยจินดา ลูกชายคนเก่งของ ม.ล ปุญยนุช เกษมสันต์ ดุลยจินดา ที่เคยมีโอกาศรับเกียรติให้ได้รับการสัมภาษณ์จากท่านไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

“คนเราถ้ามีความตั้งใจจริง ก็สามารถนำความชอบส่วนตัว ทำให้กลายมาเป็นอาชีพของเราได้ครับ”

หนุ่มอินถือเป็นบุคคลรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย จนทำให้เป็นที่น่าสนใจ และน่าจับตามองจากแวดวงนิตยสารต่าง ๆ มากมายในเมืองไทย และล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา คุณอิน กษิดิศ ก็ได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งใน 12 ชายหนุ่มในฝัน 2015 ของหนังสือไฮโซปาร์ตี้อีกด้วย และยังเป็นที่น่าสนใจหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่กำลังจะเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งคงอยากรู้ว่า คุณอิน ต้องผ่านพบเจออุปสรรคอะไรมาบ้าง

20151203-kasidith-hisoparty2015
Hiso Party Awards 2015
photo: instagram @hell_69_

คุณอินเล่าให้ฟังว่า.. “ถึงแม้ว่าจะมีพื้นฐานครอบครัวที่ให้การสนับสนุนเรื่องการเงินได้เป็นอย่างดี แต่ในเรื่องของธุรกิจแล้วนั้น เป็นการเริ่มต้นเรียนรู้และลองผิดลองถูกด้วยตัวเองจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางครอบครัวของผมไม่ได้มีใครทำธุรกิจด้านนี้มาก่อน เพราะฉะนั้น ปัญหาอุปสรรคและความยากลำบากย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน แต่ในที่สุดด้วยความตั้งใจจริงและความรักในงานที่ทำ จึงทำให้ผมมีวันนี้ครับ ซึ่งก็ยังต้องเรียนรู้ให้มากขึ้นและพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นยิ่ง ๆ ขึ้นไป”

 

พี่รี่ - สวัสดีค่ะน้องอิน รบกวนช่วยแนะนำตัวให้เพื่อน ๆ คนไทยในออสเตรเลียได้รู้จักด้วยหน่อยค่ะ

อิน - สวัสดีครับ แฟนๆ MaBrisbane ผม กษิดิศ เกษมสันต์ ดุลยจินดา, หรือที่เพื่อนๆผมเรียกว่า "อินนี่" ปัจจุบันอายุ 24 ปี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนำเข้าและจำหน่าย ของแต่งรถ Porsche และ Super Car ในนาม HITz SuperCar Tunning ครับ ร้านของผมนั้นรับดูแลทั้งหมด ตั้งแต่ ล้อ ท่อไอเสียเพิ่มสมรรถนะ (Performance Exhaust) ชุดแต่ง (Aero Kit) จูนเพิ่มแรงม้า และแรงบิด (Tunning) โดยเราเป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้กับสินค้าระดับโลกอย่าง Armytrix World F-1 Performance Exhaust และเป็นตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาค South East Asia ให้กับแบรน Agency Power และ อีกบทบาทหนึ่งที่ปีนี้ผมเข้ามาทำเต็มตัว คือ ดูแลการขาย อสังหาริมทรัพย์ ของบริษัทในเครือของคุณพ่อครับ หน้าที่ในการเลือกซื้อทั้งหมดเป็นของคุณพ่อคุณแม่ ผมจะดูแลส่วนของการนำเสนอ ที่ดินนั้นได้แก่ บริษัทใหญ่ๆ และ นายทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนในที่ดินของเราครับ ว่าง่ายๆ ว่าหาคนซื้อนั่นเอง

20151203-kasidith-hitz
photo: instagram @hitz_supercartuning

สำหรับชีวิตในวัยเด็กของผม ผมเป็นคนรักการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่เด็ก ในสมัยที่ศึกษาในระดับ ประธมถึงมัธยมต้น ที่ โรงเรียน วชิราวุธ วิทยาลัย ผมเคยใด้รับเกียรติเป็นนักกีฬาทีมโรงเรียน ในฐานะนักกีฬา Rugby รุ่นอายุ 13 ปี อยู่หนึ่ง Tournament

ก่อนจะย้ายมาศึกษาต่อมัธยมปลาย ที่โรงเรียน Saint John International School ในช่วงเวลานั้น ผมได้มีโอกาสรับใช้โรงเรียน(ติดทีมโรงเรียน) ในกีฬาทุกชนิดของโรงเรียน ฟุตบอล , บาสเกตบอล และ กรีทา ผมไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แต่ด้วยความชอบ เลยไปคัดตัวกับทุกกีฬาที่เปิด และ ก็ฟลุ๊คๆ ได้ติดทีมไปแข่ง แม้ว่ายุคของผมนั้น ผลงานของทีมเราจะไม่ดีเท่าไร(หัวเราะ) ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ช่วงนั้นกระแสการเต้นในเมืองไทยกำลังมาแรง ยุคแรกๆ ผมก็ไม่พลาดไปฝึกเต้น Break Dance กับเขา ใช้ชีวิต ในสถานะ บีบอย อยู่สองปีจนเข้า มหาวิทยาลัย ก่อนจะประสบอุบัติเหตุ เอ็นข้อเท้าฉีกขาด จากการเล่นฟุตบอล ทำให้ต้องปิดเทอมการเล่นกีฬาอยางจริงจังไป

ทั้งชีวิต ตอนนั้นผมรู้สึก "เศร้ามากครับ" เพราะคุณหมอบอกว่า ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้อีกแล้ว

 

พี่รี่ - ในฐานะที่น้องอินยังเป็น “วัยรุ่น” อยู่ น้องอิน มองว่าชีวิตวัยรุ่นสมัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง

อิน - ผมคิดว่าวัยรุ่นไทยสมัยใหม่ ร่างกายโตเร็วแต่ความคิดโตช้า เรามีการแต่งตัว การใช้ชีวิตที่โตขึ้นกว่าวัยรุ่นสมัยก่อนมาก ไปเที่ยวในสถานที่ๆผู้ใหญ่เที่ยว กินอาหารแพงๆ ซื้อของใช้แพงๆ เหมือนผู้ใหญ่ ตั้งแต่อายุน้อยๆ แต่ในทางกลับกัน ความคิดเรากลับเด็กลงๆ แยกแยะผิดถูก อะไรควรไม่ควร ไม่ได้ ที่เห็นตัวอย่างชัดๆคือ เน็ตไอดอลในประเทศไทยสมัยใหม่ ที่เห็นว่า พอใครทำอะไรไม่ดี ก็เป็นกระแส มีคนให้ความสนใจ ก็แห่ทำตามกัน ทำอะไรก็ได้ เพื่อเป็นที่สนใจ โดยไม่คำนึงว่าสิ่งนั้นถูกหรือผิด เป็นต้น

 

พี่รี่ - กลับมาถึงหน้าที่การงาน ได้รับการยอมรับว่า เป็นคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จกับกิจการของตัวเอง HITz Supercar Tuning ทำไมถึงก้าวมาทำธุรกิจนี้ มีแรงดลใจอะไรค่ะ

อิน - ผมมีความชอบในเรื่องของรถตั้งแต่อายุ 15-16 ปี ซึ่งก็คล้ายๆกับเด็กผู้ชายทั่วไปที่ชอบแต่งรถ ตอนนั้นผมใช้เวลาหลังเลิกเรียนส่วนใหญ่หมดไปกับการไปร้านแต่งรถกับเพื่อนๆ ผมอยู่กับร้านแต่งรถทุกวัน นั่งดูช่างทำทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด หนักถึงขั้นไปนอนค้างที่บ้านพี่เจ้าของอู่เลย เพราะอยู่เฝ้ารถจนดึก และอยากตื่นเช้ามานั่งดูช่างทำรถต่อ แต่งจนรถเราเริ่มดีที่สุดในอันดับต้นๆของประเทศในรุ่นรถที่ผมใช้อยู่ จนมีชื่อเสียงในกลุ่มคนชอบแต่งรถ สมัยนั้นพอมีคนเข้ามาใหม่อยากจะเริ่มแต่งก็จะมาปรึกษาผมก่อนว่าควรจะแต่งยังไงดี ซื้อที่ไหน เป็นต้นครับ

ในขณะนั้นผมก็จะแต่งๆไป และก็มาขอเงินคุณแม่ไปจ่าย จนกระทั้งวันหนึ่งทำรถเสร็จก็เอาบิลมาเบิกคุณแม่… ปรากฎว่า “คุณแม่ไม่ให้” ท่านบอกว่าสิ้นเปลืองมาก วัยแค่นี้หาเงินไม่ได้ ยังใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้ (ตอนนั้นอายุราวๆ 18-19 ได้ กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย) จุดนี้เองเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ด้วยความที่ก็ยังชอบแต่งรถอยู่ แต่ไม่มีเงินแต่งรถแล้ว ผมเลยคิดว่า เราจะทำยังไงดี?

ก็เลยใช้จุดแข็งของเราให้เป็นประโยชน์ ปกติเดิมทีเวลาคนมาปรึกษาผม ผมก็จะแนะนำไปร้านต่างๆที่ผมเชื่อถือ ให้เค้าคุยกันโดยตรง แต่ตอนนี้ผมก็เริ่มปรับ เวลามีคนอยากแต่งรถ ผมเสนอดูแลรถเค้าให้เลย อยากทำอะไรบ้างเอารถมาไว้ที่ผม เดี๋ยวผมเป็นธุระเอาไปแต่งให้ และ ทางร้านค้าต่างๆ ก็ให้ คอมมิชชั่น ผมเป็นการตอบแทน ช่วงนั้นก็มีเงินเข้ามาเดือนราวๆ 3-4 หมื่นบาท จนผมเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ก็คิดว่า ถ้าเรานำเงินตรงนี้ไปใช้ เงินเราจะหมดแค่นี้ รายได้มันก็จะทรงตัวเท่านี้ตลอดไป ผมจึงตัดสินใจนำเงินเก็บก้อนนี้ มาสั่งของแต่งจากเมืองนอกมาขายเอง และเมื่อขายได้กำไร ผมก็ไม่เอาเงินไปใช้ เอาไปสั่งใหม่อีก ซ้ำไปซ้ำมา จนวันนึงผมมีของแต่งมากพอที่เวลาลูกค้าถามหาอะไรมา ผมมีให้เขาเกือบทุกอย่าง

หลังจากนั้นกระแสรถสปอร์ตก็เริ่มเป็นที่นิยมในประเทศไทยอย่างมาก ราคารถนำเข้าถูกลง ซื้อหาได้ง่ายขึ้น คนต่างจังหวัดก็หันมาซื้อรถสปอร์ตกันเยอะ แต่ร้านแต่งรถดีๆทีใด้มาตรฐานนั้นส่วนใหญ่อยู่กรุงเทพหมด และก็บังคับให้ลูกค้าต้องนำรถเข้ามาทำที่ร้านที่กรุงเทพเท่านั้น ลูกค้าต่างจังหวัดก็ไม่รู้จะทำรถที่ไหน เพราะไม่อยากเดินทางไกล ทำให้ส่วนใหญ่กลุ่มคนต่างจังหวัดก็เลยไม่ได้แต่งรถ ผมเล็งเห็นโอกาสตรงนี้ ผมใช้ Social ในการขาย ทำให้ได้ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าต่างจังหวัด และ ผมเป็นเจ้าแรกๆเลย ที่เสนอ ส่งของไปให้ลูกค้าถึงจังหวัดของเค้าเลย จุดนั้นเองทำให้ เป็นช่วงหนึ่งปีเต็มที่ผมครองตลาดได้ เพราะลูกค้าต่างจังหวัดมาซื้อกับผมหมด ช่วงนั้นกำไรต่อเดือนก็เพิ่มประมาณเป็นราวๆ 100,000 +- ทุกเดือน จนไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ใช้เลยได้ สามปีเต็ม (พ่อแม่ผมให้ค่าขนมเดือนละ 15,000 บาท เป็นค่าทางด่วน ค่าอาหารที่มหาวิทยาลัย ค่าน้ำมันรถ นอกเหนือจากนั้นผมใช้เงินของตัวเองหมด)

20151203-kasidith-hitz-car

20151203-kasidith-hitz-exhaust
photo: instagram @hell_69_

รายได้จากการขายของแต่งรถออนไลน์นี่เอง เป็นจุดที่ทำให้ผมสามารถเติมเต็มชีวิตเด็กผู้ชายได้ ช่วงมหาลัยปี 3 ผมสามารถ ซื้อ นาฬิกา Rolex และ Panerai เรือนละสองสามแสนได้ด้วยตัวเอง สามารถเดินทางไปเที่ยวเมืองนอกได้ โดยไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ และเริ่มซื้อรถคันแรกด้วยเงินของตัวเอง โดยตอนนั้นได้ขาย Nissan Fairlady ที่คุณแม่ซื้อให้ และนำมารวมกับเงินเก็บของตัวเองที่เก็บไว้ตลอด 3 ปีไปซื้อรถ Porsche Boxster พูดได้เต็มปากว่าเป็นรถที่มาจากนำพักน้ำแรงตัวเองคันแรก น้ำตาแทบไหลวันที่จดทะเบียนเป็นชื่อของตัวเองในเล่ม (ปกติคุณแม่ซื้อรถให้ แม่ก็ซื้อเป็นชื่อคุณแม่แต่ให้เราใช้) ต่อมาช่วงปี 2013 ผมกำลังจะขึ้นปี 4 ตอนนั้นอายุประมาณราวๆ 22 ได้ ตลาดรถซิ่งญี่ปุ่น มันเริ่มอิ่มตัวตัน คนหันมาทำตามกันเยอะ บวกกับพอเรามี Porsche เราก็เริ่มศึกษาเริ่มเข้าใจแนวทาง และ ความคิดของคนเล่น Porsche

ดังนั้นผมจึงอยากจะเปิดร้านแต่งรถ Porsche โดยเฉพาะ เป็นเฉพาะทางของ Porsche ไปเลยแต่ตัวผมเองนั้นมีกำลังทรัพย์ไม่มากพอ จึงได้ชวนเพื่อนอีกสองคนที่ขณะนั้นก็ใช้รถ Porsche เช่นกัน ว่าอยากมาลุยด้วยกันไหม ซึ่งแน่นอนหลังจากนั้นก็เลย เกิด HITz Specialize in Porsche Tunning ขึ้นมาก่อนในปี 2014 เหลือเชื่อจริงๆ ภายในเวลาไม่กี่เดือน เราได้แต่งรถ Porsche กว่า 30 คัน และเริ่มมี Supercar มาให้เราแต่ง ทั้ง Lamborghini , Ferrari , Audi R8, McLaren MP-4 , GTR R35 ก็เชื่อมั่นมาแต่งกับร้านเราทั้งหมด ทำให้ปี 2015 ผมได้เปลี่ยนชื่อร้านและคอนเซปของร้านอย่างเต็มตัวมาเป็น HITz SuperCar Tuning จนถึงปัจจุบันเราได้ดูแล รถ Porsche และ SuperCar เมืองไทยไปแล้วกว่า 200 คัน.

 

อีกหนึ่งโปรเจคใหญ่ของเรา ติดตั้งท่อ Armytrix full titanium exhaust สำหรับ Lamborghini Murcielago LP670-4 SV ซึ่งผลิตขึ้น...

Posted by Hitzproject on Sunday, November 29, 2015

 

พีรี่ - อยากทราบว่าปัญหาและอุปสรรคที่ต้องพบเจอในเวลาทำงานมีอะไรบ้าง รวมถึงมีวิธีการหรือแนวทางแก้ไขอย่างไร, สิ่งที่ได้รับจากงานนี้, และมองอนาคตของตัวเองไว้ว่าอย่างไร

อิน - ปัญหาก็มีเข้ามาหลายรูปแบบมากๆ แต่ที่พบบ่อยคือ ปัญหาด้วยการนำเข้า เรื่องระยะเวลาในการผลิตของที่ยาวนาน ผลิตเสร็จนำเข้ามาบางครั้งก็มาติดที่ด่าน ศุลกากรอีก กว่าจะนำส่งลูกค้าได้ ตรงนี้แนวทางแก้ไขตายตัวก็ไม่มีชัดเจน แต่ประสบการณ์มันก็สอนผมให้ค่อยๆแก้ปัญหาเป็นในแต่ละเคสไปเรื่อยๆ หากเจอปัญหาเดิมในครั้งหน้า เราก็จะแก้ไขได้เร็วและฉลาดขึ้น

ในอุตสาหกกรมรถยนต์เมืองไทยนั้นส่วนใหญ่เจ้าของกิจการทั้งหลายเป็นคนมีอายุสูงกว่าผมหลายปี จนไปถึง สิบยี่สิบปีเลย การแข่งขันค่อนข้างสูง เคยท้อมากๆอยู่หลายครั้ง แต่ผมก็ท่องไว้เสมอ ถ้าคนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้ ถ้าเขาทำได้เราทำไม่ได้ นั่นแปลว่าเรากระจอกเอง อย่าไปโทษใคร

การได้แข่งขันกับคนเก่งๆ มีประสบการณ์เยอะ ผมว่าเป็นเรื่องดี มันทำให้เราโตขึ้น โตเร็ว เพราะจะยิ่งต้องถีบตัวเองให้เก่งมาก และเก่งเร็วๆ เพื่อไปสู้กับคนเก่งๆ

ส่วนใน อนาคตความฝันผมก็เดาไม่ยากครับ ผมอยากเป็นเจ้าสำนักแต่งรถ SuperCar อันดับหนึ่งของ เอเชีย และขยายฐานลูกค้าไป ยุโรป ให้ทุกคนคิดถึงการแต่งรถ ต้องนึกถึงเราเป็นคนแรกเสมอ

 

พี่รี่ - ในสายตาน้องอิน มองว่า วัยรุ่นไทย ต่างกับวัยรุ่น เมืองนอกยังไงบ้าง และหรือ อะไรที่ควรมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในบ้านเรา

อิน - ผมเดินทางไปต่างประเทศน้อยมาก ส่วนใหญ่ไปก็เฉพาะไปทำงาน เลยอาจจะทำให้ วิสัยทัศน์ ของผมตรงนี้ไม่ได้ดีมากเท่าที่ควร แต่สิ่งที่ผมสังเกตเห็นคือ วัยรุ่นต่างชาติ เริ่มทำงานและประสบความสำเร็จเร็วมาก Partner ของผม ที่ Malaysia , Indonesia มีอายุไล่เลี่ยกับผม คือ 20-28 ส่วนที่ Taiwan , Japan และ USA นั้น วัยแค่ 30-40 ต้นๆ ก็เป็นเจ้าของบริษัท นานาชาติ ระดับ ขายส่งสินค้าไปทั่วโลก

ในขณะที่วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ที่ผมได้สัมผัส แม้จะเรียนจบมาแล้ว ก็ยังใช้ชีวิต Slow Life ใช้เวลาไปวันๆ กับสิ่งที่ไม่ได้เป็นประโยชน์นัก มันไม่ผิดที่ถ้าหากใครฐานะดีจะยังให้พ่อแม่ช่วยเหลือ ตัวผมเองก็ยังขอเงินท่านบ้าง แต่ผมคิดว่าวัย 20 กว่านี้ ต้องเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องเริ่มทำงาน ออกตามหาสิ่งที่ตัวเองชอบให้เจอ เริ่มสร้างตัว เริ่มจากการเป็นลูกน้องคนก่อน พอช่วง 20 ปลายๆ คุณต้องมีงานเป็นชิ้นเป็นอัน มั่นคง เตรียมพร้อมจะตอบแทนพระคุณพ่อแม่ หาเลี้ยงท่านคืนที่ท่านเลี้ยงเรามาตลอด 20 กว่าปี รวมถึงเริ่มสร้างตัวรอวันที่เราจะมีครอบครัวได้แล้ว

 

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ เรียกได้ว่า “หน้าตาดี ความคิดดี วิสัยทัศน์ดี” สมควรแล้วที่ได้รับการยอมรับให้เป็นบุคคลรุ่นใหม่ มีความคิดที่ดี เป็นตัวอย่างของสังคมจริง ๆ ทางพี่รี่ต้องขอกล่าวคำชื่นชมและขอบคุณ “คุณอิน กษิดิศ เกษมสันต์ ดุลยจินดา” มา ณ ที่นี้อีกครั้ง อย่าลืมนะคะสำหรับเพื่อนๆที่กลับประเทศไทยและอยากแต่งรถแต่ง Supercar หรู ๆ และได้มาตรฐาน ก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมเยียนสอบถาม HITz supercar Tuning ได้เลยค่ะ

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 04 ธ.ค. 2015
Miss Brisbane

Fashion Editor
MaBrisbane.com

 

เวปไซต์: www.facebook.com/serena.denis.1