สั่งพิมพ์หน้านี้

รีวิว Fast 7 for the memory of Paul Walker

เผยแพร่เมื่อ 06 เม.ย. 2015 ผู้เขียน
Fast and Furious 7 สวัสดีฮ้าฟ ท่านผู้อ่านทุกท่าน โทษทีที่หายไปนานนะครับ เนื่องจากงานที่นิวทำอยู่นั่นยุ่งมากเลย

สำหรับวันนี้นิวก็จะมารีวิวหนังที่กำลังเป็นกระแสทั่วโลกในขณะนี้ เป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจาก Fast and Furious 7 หนังเฟรนไชส์ที่เกี่ยวกับรถซิ่งสุดมัน ที่เดินทางมาถึงภาคที่ 7

นำแสดงโดย Paul Walker , Vin Diesel , Michelle Rodriguez , Jason Statham , Dwayne Johnson , Tony Jaa , Tyrese Gibson และ นักแสดงที่คุ้นตาอย่างมากมาย

 

สำหรับแฟน ๆ ตัวจริงของ Fast ไม่ต้องบอกก็คงจะเข้าใจกันดีถึงความซับซ้อน ติดต่อกันของเนื้อเรื่องและภาคที่สลับกันไปมา สำหรับแฟนใหม่ที่ยังปะติดปะต่อเนื้อเรื่องไม่ค่อยถูก ไม่ต้องตกใจไป เรามีไกด์ไลน์ลำดับการดู Fast ให้กระจ่างก่อนไปดูภาคล่าสุดกัน

  1. The Fast and the Furious (2001)
  2. 2 Fast 2 Furious (2003)
  3. Los Bandoleros (2009) อันนี้เป็นหนังสั้นที่สร้างและกำกับโดยพี่ Vin Diesel ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน Fast and Furious สามารถหาชมกันได้ใน special edition DVD/ blu-ray ของ Fast and Furious
  4. Fast and Furious (2009)
  5. Fast Five (2011)
  6. Fast and Furious 6 (2013)
  7. The Fast and The Furious: Tokyo Drift (2006)
  8. Furious 7 (2015)
 

สำหรับ Fast and Furious 7 เรื่องนี้ เป็นเนื้อหาต่อจากภาคที่แล้ว ที่เชื่อมโยงกันกับเหตุการณ์ ใน Tokyo Drift จากการตายของ ฮาน (Sung Kung) เนื่องจากแก๊งรถซิ่งของพวกเขาได้ไปเล่นงานน้องชายของ Deckard Shaw(Jason Statham) จนปางตาย นอนโคม่าอยู่ในโรงพยาบาล จนเขาต้องกลับมาแก้แค้นแทนน้องชายของตัวเอง โดยเริ่มจากการสืบหาและตามจัดการกับคนที่ทำกับน้องชายเขาทีละคน โดยเริ่มจาก ฮาน และ โทเล็ตโต้ พวกแก๊งรถซิ่งจะทำอย่างไร เมื่อความแค้นตามกลับมาถึงบ้าน

จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือ.. เราจะได้เห็น Super car หลายรุ่นด้วยกัน โดยเฉพาะ lykan hypersport, Chager หรือแม้กระทั่ง Nissan GTR อีกด้วย เรียกได้ว่าถูกใจแฟนหนังเรื่องนี้เลยทีเดียวเชียว

สำหรับประเด็นที่ทุกท่านกำลังสงสัยว่า ทีมงานมีวิธีคืนชีพให้ Paul Walker กลับมาโลดแล่น บนแผ่นฟิล์มได้อีกครั้งได้อย่างไร คำตอบก็คือ การให้น้องชายทั้งสองคนของ Paul Walker มาร่วมแสดงและได้ใช้ เทคนิคพิเศษทางการถ่ายทำอย่าง CGI นั่นเอง

ความพิเศษของภาคนี้อีกอย่างคือ ฉากต่อสู้เท่ห์ ๆ จากนักแสดงสมทบชาวไทย อย่าง จา พนม หรือ Tony Jaa ที่ได้เชิญให้มาร่วมแสดงกับทีมงานอีกด้วย บอกได้เลยว่า ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งสิ้น นะครับผม

สำหรับคะแนนหนังเรื่องนี้ผมให้ไปเลย 8.7 เต็ม 10 บอกได้เลยว่าครบรสมาก ไม่ว่าจะเป็นฉากแอคชันหรือโรแมนติกก็ตาม รวมไปถึงเพลงประกอบที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อ Paul โดยเฉพาะ

 

สำหรับวันนี้นิวก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ พบกันใหม่ โอกาสหน้า See You Another day เจอกันครับผม

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 06 เม.ย. 2015

Media