สั่งพิมพ์หน้านี้

Resume เขียนอย่างไรให้ได้งาน

เผยแพร่เมื่อ 16 พ.ค. 2016 ผู้เขียน
Resume เขียนอย่างไรให้ได้งาน Designed by Freepik

หลาย ๆ คนคงเคยเจอปัญหานี้กัน กับการเขียน resume เชื่อว่าเกือบจะทุกคนน่าจะฉงนสงสัยว่า เนื้อหาอะไรบ้างที่จำเป็นในการกรอกลงในเอกสารตัวนี้ กับคำถามโลกแตกที่บอกว่า “ควรจะใส่ประสบการณ์ทุกอย่างทั้งหมดไหม” ขอบอกเลยค่ะว่า “ควรมาก” แต่ก็ให้ดูว่า ความสามารถและประสบการณ์พิเศษของเรานั้น ตรงกับตำแหน่งงานที่เราจะสมัครมากน้อยแค่ไหน บางคนเขียน Resume สั้นไป เพราะคิดว่า “ตัวเองไม่มีประวัติอะไรให้เขียน” แต่บางคนก็เขียนยาวไป เพราะลงรายละเอียดในชีวิตแบบ “เยอะเกิน” แล้วเขียน Resume อย่างไรล่ะคะ ถึงจะทำให้คุณได้งานทำ


การเขียน resume ที่ดีไม่ควรจะมีเนื้อหาเกินสามหน้ากระดาษ A4 เหตุผลก็เพราะ คุณอย่าลืมว่าหลาย ๆ บริษัทเมื่อมีการรับสมัครงาน จะมีคนส่ง resume มาเป็นร้อยเป็นพัน เพราะฉะนั้น resume ที่จะทำให้โดนใจกรรมการที่สุด ก็ต้องมีใจความและเนื้อหาครอบคลุมตรงประเด็น และมุ่งเน้นถึง “ความสามารถ” ของคุณที่มีคุณสมบัติ เหมาะสมกับหน้าที่การงานที่สมัคร

สิ่งที่ควรใส่ลงไปใน resume

1. ชื่อและประวัติของตัวคุณเอง รวมทั้งการศึกษาและได้รับรางวัลอะไรที่เด่น ๆ ในขณะเรียนหนังสือบ้าง เช่น เคยเป็นตัวแทนโรงเรียนหรือสถาบันไปตอบคำถามแข่งกับสถาบันอื่น หรือได้รับเกียรตินิยมเรียนดี เกียรติประวัติเรียนนักเรียนดีเด่น ตรงนี้ล่ะค่ะที่คุณ “ควรจะต้อง” ใส่ลงไปใน resume ของคุณ เพื่อแสดงให้ฝ่ายจัดสรรบุคลากรเข้าทำงาน ได้เห็นถึง “จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษ” ของคุณที่ส่องประกายมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่คุณเคยทำมาขณะเรียน และการทำงานหรือฝึกงานพิเศษ


2. ระบุถึง “เป้าหมายที่ต้องการในอนาคต” เพราะจะทำให้ฝ่ายคัดสรรบุคลกรรู้ถึงความต้องการในอนาคตของคุณว่า อยากจะทำอะไร เพราะปัญหาที่นักศึกษาจบใหม่หลาย ๆ คนพบเจอก็คือ “ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นหรืออยากทำอะไร” แต่ถ้าเราระบุลงไปใน resume จะทำให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลทราบว่า คุณรู้จักตัวคุณและรู้ว่าคุณนั้นอยากเป็นอะไรและอยากทำอะไร โดยเฉพาะถ้าความต้องการในอนาคตของคุณเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร รับรองได้เลยว่าเปอร์เซนต์ในการ “ถูกเชิญมาสัมภาษณ์” จะมีมากกว่าคู่แข่งหลาย ๆ ท่านที่ไม่รู้ว่าอนาคตของตัวเองอยากเป็นอะไรเยอะเลยค่ะ


3. ความสามารถพิเศษ โดยเฉพาะทางด้านภาษาและ ความสามารถทางด้านไอที ที่อธิบายถึง “จุดแข็ง” ของตัวคุณได้เป็นอย่างดี สมัยนี้ถ้าใครพูดได้ 3 ภาษาขึ้นไปถือว่าได้เปรียบมากนะคะ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณพูดภาษาอื่นได้นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ก็จำไว้เลยค่ะว่า “ให้ใส่ลงไป” แต่อย่าลืมระบุระดับความเข้าใจในการใช้ภาษานั้น ๆ ของคุณด้วย เช่น ดีมาก พอใช้ ปานกลาง หรือแค่ระดับต้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะพูดภาษาจีนได้ แต่อ่านเขียนไม่ได้ เป็นต้น ในปัจจุบันนี้อย่างที่ทราบกันว่า ไอที เป็นความสามารถที่หลาย ๆบริษัทต้องการ เพราะฉะนั้น ความสามารถในการใช้สื่ออิเลคทรอนิคส์ของคุณ อยู่ในระดับไหนและจะเป็นประโยชน์กับบริษัทยังไง หรือเกี่ยวข้องกันไหม คุณต้องเขียนถึงประโยชน์ที่จะเอื้อให้กับตำแหน่งที่คุณสมัครให้ได้


4. ประวัติการทำงาน ให้เขียนจาก “ปัจจุบันไปหาอดีต” เช่น ทำงานที่บริษัท......”.ปี 2011 – ปัจจุบัน” เป็นต้น ให้เขียนถึงบริษัทนั้นว่าทำอุตสาหกรรมอะไร และหน้าที่อะไรที่คุณได้รับมอบหมายให้ทำอยู่ ถ้าคุณเคยเปลี่ยนงานมามากมายหลายบริษัท ก็ให้เลือกเขียนถึงแต่บริษัทที่คุณ “ทำงานที่นั้นได้ยาวนานที่สุด” อาจจะเขียนระบุใน resume ไม่เกิน5 บริษัท ยกเว้นเสียแต่ว่า หน้าที่การงานที่คุณทำในบริษัทนั้น ๆ มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากกับงานที่คุณกำลังสมัครจริง ๆ เพราะอย่าลืมว่า คนที่อ่านจดหมายสมัครงานของคุณ เค้าต้องการอ่านประวัติอย่างคร่าว ๆ ที่ตรงกับการสมัครงานของบริษัทมากกว่า “อ่านชีวะประวัติ”ของคุณ


5. กิจกรรมที่คุณชอบทำหรืองานอดิเรก ตรงนี้จะเป็นการบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนและบุคลิกลักษณะนิสัยของคุณอีกอย่างหนึ่ง เช่น บางคนชอบเล่นกีฬา อ่านหนังสือ เล่นดนตรี ก็ให้ลงไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น คุณใช้เวลาว่างในการเล่นกีฬาโดยเฉพาะกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีม อาทิเช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลล์เลย์บอล ตรงนี้จะสื่อให้เห็นถึง “คุณสามารถทำงานเป็นทีมได้ดี” เป็นต้น แต่อย่าลืมว่า ต้องใส่งานอดิเรกของคุณตามความเป็นจริงนะคะ ไม่ใช่ว่าใส่แค่เพื่อให้ได้งานหรือดูดี บางคนใส่ว่า เล่นกอลฟ์ แต่ในชีวิตจริงไม่เคยเล่นเลย ลองคิดดูว่าถ้าบริษัทจ้างงานคุณจริง ๆ แล้วมีการแข่งขันประเภท “กีฬากระชับมิตร” แล้วอะไรจะเกิดขึ้น


6. บุคคลอ้างอิง อันนี้ล่ะสำคัญที่สุด เพราะจะทำให้ทางบริษัทที่คุณสมัครงานอยู่ทราบถึงการมี “สัมพันธภาพที่ดี” ระหว่างคุณกับบุคคลนั้น ๆ อย่างไร บางคนถึงแม้จะลาออกจากที่ทำงานเก่ามาแล้ว แต่อดีตผู้บังคับบัญชายังยินดีที่จะเป็นบุคคลอ้างอิงให้ นั่นก็แสดงให้ทางที่ทำงานที่คุณกำลังสมัครอยู่ทราบว่า “คุณยังคงรักษาความเป็นมิตร” ระหว่างคุณกับเจ้านายเก่าหรือบุคคลในทีทำงานเก่าของคุณได้เป็นอย่างดี

แค่นี้ล่ะค่ะสิ่งจำเป็นที่คุณควรจะต้องใส่ใน resume แต่ข้อสำคัญที่สุดอย่าลืมนะคะว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณกรอกลงใน resumeนั้น ควรที่จะต้อง “เป็นความจริง” นะคะ

Miss Brisbane

Fashion Editor
MaBrisbane.com

 

เวปไซต์: www.facebook.com/serena.denis.1