ตัดสินใจมาเรียนต่อต่างประเทศและต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัว พร้อมกับเป้าหมายที่จะกลับไปเปิดธุรกิจร้านขายยาของตัวเองเพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ที่บ้านเกิดจังหวัดอยุธยา มาดูเรื่องราวของ "สิริน" ว่าเธอจะไปถึงฝั่งฝันได้อย่างไร.. โดยตั้งแต่เรียนจบเภสัชเคมี (pharmaceutical science) ที่ไทย ก็มาเรียนภาษาอังกฤษที่ Institute of Continuing & TESOL Education (ICTE-UQ) ในโปรแกรมที่ชื่อว่า Bridging English Program (BEP) และกำลังเรียนปริญญาโทสาขาผู้ประกอบการและนวัตกรรม (Master of Entrepreneurship and Innovation) ที่ University of Queensland หรือ UQ
แนะนำตัวเองหน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะ ชื่อสิรินค่ะ เป็นคนอยุธยาแต่ไปเรียนปริญญาตรีสาขาเภสัชเคมีที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ช่วงนั้นเป็นอะไรที่ทดสอบเราพอสมควร เพราะต้องอยู่ไกลบ้านถึง 6 ปี ปีนึงจะได้เจอครอบครัว 3-4 ครั้ง หลังจากเรียนจบก็ได้ทำงานที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นเภสัชกรคลินิก ซึ่งดีหน่อยที่อยู่ใกล้บ้านมากขึ้น แต่ก็ยังคิดถึงครอบครัวอยู่ดี ในระยะเวลา 7 ปีที่ทำงานอยู่ก็ได้เจอคนไข้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอยู่แล้ว จึงทำให้เราได้มีโอกาสใช้ทักษะภาษาอังกฤษเป็นประจำ
ทำไมถึงเลือกมาเรียนต่อที่ออสเตรเลีย?
ตั้งแต่ช่วงเรียนแล้วก็ทำงาน ต้องอยู่ห่างจากครอบครัวตลอด มันก็เลยทำให้เราอยากที่จะทำงานอยู่ใกล้ ๆ บ้าน ก็เลยวางแผนที่จะเปิดธุรกิจร้านขายยาของตัวเอง แต่ไม่มีความรู้เรื่องการทำธุรกิจ เลยเริ่มคิดที่จะมาเรียนต่อปริญญาโทในต่างประเทศ เผื่อจะได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้พัฒนาภาษาอังกฤษ และก็ได้มาเปิดโลกกว้าง เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนที่เริ่มจะวางแผนจริงจัง กำลังหาข้อมูลว่าจะเรียนที่ไหนดี เพื่อน ๆ รุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันที่เค้าเคยมาเรียนต่อที่ออสเตรเลียก็แนะนำมา
เราเองก็รู้สึกว่าประเทศออสเตรเลียน่าสนใจมาก ก็เลยลองสมัครวีซ่า Work and Holiday มาดูลาดเลาก่อน ซึ่งตอนนั้นเลือกไปเรียนภาษาคอร์สระยะสั้นแบบ 3 เดือนที่ซิดนีย์ อยู่ที่ออสเตรเลียได้แค่ 4 เดือน ก็ตัดสินใจกลับไทยเพื่อสมัครขอวีซ่านักเรียน ที่เลือกเรียน UQ เพราะรู้สึกว่าคอร์สนี้เค้าสอนตั้งแต่ความรู้พื้นฐานในเรื่องการทำธุรกิจ ซึ่งมันตรงกับความต้องการของเราพอดี
อยู่บริสเบนเป็นยังไงบ้าง?
บริสเบนเป็นเมืองสบาย ๆ ไม่วุ่นวายเหมือนกรุงเทพ ฯ และซิดนีย์ ผู้คนไม่เร่งรีบแล้วก็อัธยาศัยดี อากาศที่นี่ก็คล้ายกับที่ไทย ว่าง ๆ เราก็ออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะบ้าง ไปเดินชอปปิ้งตามตลาดของสด และก็ทำกิจกรรมกลางแจ้งกับเพื่อน ๆ ทัศนียภาพของที่นี่ก็สวยจริง ๆ โดยเฉพาะวิวริมแม่น้ำเวลาที่เราวิ่งออกกำลังแถว UQ
ภาษาอังกฤษได้พัฒนาไปอย่างไรบ้าง?
เรารู้จักคนไทยอยู่แค่คนเดียวในบริสเบน เพื่อน ๆ เรามีแต่ต่างชาติทั้งนั้น ซึ่งเป็นเพื่อนที่เจอกันตอนเรียนภาษา (BEP) ที่ ICTE-UQ และส่วนหนึ่งก็รู้จักกันผ่าน UQ Yoga Club ก็เลยทำให้เราได้มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษอยู่ตลอด หลังจากปรับตัวเข้ากับการเรียนปริญญาโทที่มหาลัยได้แล้ว ก็คิดว่าจะเข้าร่วมคลับอื่น ๆ ของ UQ อีก จะได้ลองอะไรใหม่ ๆ และก็ได้พบปะเพื่อนใหม่ด้วย
BEP ได้ช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษหลายด้าน ทำให้เราเกิดความชอบอยากเรียนเกี่ยวกับทักษะรูปแบบการเขียนภาษาอังกฤษ อาจารย์จะคอยตรวจการบ้านและให้คำแนะนำ คำอธิบายกับเราเสมอ เรารู้สึกมีความมั่นใจเวลาพูดมากขึ้น ฟังรู้เรื่องขึ้น เพราะได้ฝึกกับเจ้าของภาษาและยังเข้าใจสำเนียงของชาติต่าง ๆ อีกด้วย ตอนแรกที่มาเรารู้สึกว่าคนออสเตรเลียพูดเร็วและก็ไม่ค่อยชัด แต่ตอนนี้เราโอเคกับมันมาก ๆ เลยล่ะ
รู้สึกอย่างไรบ้างกับการเข้าใกล้ฝั่งฝันของแผนที่วางไว้?
รู้สึกดีมากที่ได้เข้าเรียนปริญญาโทสักที จะได้เจอเพื่อนใหม่แล้วก็ได้เรียนกับอาจารย์ที่มีประสบการณ์ คอร์สนี้เรียน 2 ปี หลังจากเรียนจบก็จะกลับไปหาประสบการณ์เพิ่มเติมในโรงพยาบาล ด้วยที่เราเป็นลูกคนโต มีหน้าที่รับผิดชอบครอบครัว ต้องดูแลพ่อแม่ จริง ๆ ตั้งแต่ก่อนมาเรียน เราก็เตรียมวางแผนเลยว่าจะเรียนจบให้ทันพ่อเกษียณ เชื่อว่าสิ่งที่เราเรียนรู้จาก UQ และก็ประสบการณ์ที่เราได้จากการมาอยู่ออสเตรเลียจะทำให้เราสามารถไปเปิดธุรกิจของตัวเอง เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ และก็ดูแลครอบครัวได้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bridging English Program ที่ ICTE-UQ ได้ที่นี่
ที่มา: https://icte.uq.edu.au/blog/2017/05/planning-my-future-thailand
