โยโกะ ทาคาโน่ รัก เศร้า เหงา และ เจ็บเป็น

เผยแพร่เมื่อ 08 ม.ค. 2014 ผู้เขียน
ฉันคือ “โยโกะ ทาคาโน่” รัก เศร้า เหงา และ เจ็บเป็น ถ้าย้อนกลับไปประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จักสาวสวยสุดเซ็กซี่คนนี้ “โยโกะ ทาคาโนะ”  กับวันนี้ของโยโกะเป็นอย่างไรบ้าง รวมทั้งข่าวลือมากมาย วันนี้เธอทำอะไรอยู่ เราพบกับเธอกันเลยดีกว่านะคะ 


สวัสดีค่ะโยโกะ มีแต่คนเรียกว่า “โยโกะ” แต่ทราบมาว่าชื่อจริงของโยโกะที่เป็นชื่อไทยตามบัตรประชาชนนั้น เพราะมาก นั้นคือ? อยากให้พูดถึงความหมายของชื่อด้วยค่ะ? 

ชื่อไทยตอนเกิดคือ “อังศุมารินทร์ ทาคาโน่” แต่พอเข้าวงการก็เปลี่ยนเป็น “ชนิกานต์ ทาคาโน่” ส่วนในปัจจุบันชื่อไทยตามบัตรประชาชนของโยโกะคือ “ณภาสิชา โยโกะ ทาคาโน่” ค่ะ 

โห ฟังดูแล้วอลังการงานสร้างมากเลยนะคะ รบกวนขอคำแปลด้วยค่ะว่าแปลว่าอะไร?

“คำแปลของชื่อนี้คือ แสงสว่างที่จุติบนท้องฟ้าค่ะ” 

yoko003ช่วงที่โยโกะโด่งดังนั้นเรียกได้ว่า ขยับตัวไปไหน ทำอะไรก็เป็นข่าว ซึ่งมีทั้งจริงบ้างและไม่จริงบ้าง อยากให้เล่าถึงความรู้สึกในช่วงนั้นหน่อยค่ะ? 

บอกตรงๆเลยนะคะ ตอนช่วงนั้นโยโกะไม่ทราบจริงๆเลยว่าตัวเอง”มีชื่อเสียง” ประกอบกับช่วงนั้นก็ยังเด็กอยู่ อายุยังไม่ถึง20ปีเลย เพราะฉะนั้นการแสดงออกในหลายๆ อย่างรวมทั้งความรู้สึกนึกคิดยังเป็นตัวของตัวเองอยู่มาก แต่แค่รู้สึกว่า “จะอะไรกันนักกันหนาเนี่ยกับชีวิต ซึ่งแรกๆ เราก็แก้ข่าวไปเรื่อย แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้มันยุ่งยากและทำให้คนไม่เข้าใจเรามากกว่าเดิม ฉะนั้นไม่รู้จะพิพาทกับเค้าไปเพื่ออะไร แต่ถ้าถามความรู้สึกโยโกะจริงๆ ก็รู้สึกว่า “ทำไมต้องเล่นแรงขนาดนี้” 

รู้สึกยังไงที่มีคนพูดว่า “โยโกะเป็นคนแรง”?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย เพราะไม่สามารถที่จะไปควบคุมหรือบังคับให้เค้าคิดเหมือนเรา เพราะเค้าอยากจะเชื่อในสิ่งที่เค้าได้ยินหรืออ่านมาจากสื่อต่างๆ หรือแม้แต่  First Impression โดยที่เรายังไม่รู้จักกัน ซึ่งอาจจมาจากโยโกะเป็นคนหน้าดุชอบพูดเสียงดังหรือเปล่า เลยทำให้เหมือนเป็นคนแรง อีกอย่างคือคุณแม่เคยบอกโยโกะไว้ว่า “เวลาจะว่าใครให้พูดต่อหน้าเค้าไปเลยเพราะถ้าด่าว่าเค้าลับหลังแล้วเค้าไม่ได้ยินแล้วมันจะเข้าตัวเรา (หัวเราะ)”  คือมันมีสาเหตุมาจากเวลาเราขับรถน่ะคะก็อย่างที่ทราบว่าคนขับรถในเมืองไทยมักจะใจร้อนปาดกันไปปาดกันมา ซึ่งเวลามีใครมาปาดหน้าโยโกะ เราก็จะด่าเค้าแต่เป็นการด่าอยู่ในรถ ซึ่งเค้าไม่ได้ยินหรอกแต่คนที่ได้ยินน่ะคือคุณแม่ คุณแม่ก็เลยบอกด่าเค้าอย่างนี้เค้าไม่ได้ยินแต่คุณแม่กับโยโกะนั่นล่ะที่ได้ยิน และมันก็จะเข้าตัวเราเอง เพราะฉะนั้นอย่าด่าให้ลับหลัง  อีกอย่างก็คือโยโกะเป็นคน”หูตึง” เวลาพูด ต้องพูดเสียงดังๆ น่ะค่ะ ถึงจะได้ยินก็เลยทำให้คนที่ไม่รู้จักคิดว่าเราเป็นคนดุ 

ณ ปัจจุบันนี้ ยังมีแฟนคลับหลายคนอยากทราบว่าโยโกะทำอะไรอยู่คะ? 

ก็เรียนตามตรงเลยค่ะว่าตอนนี้โยโกะพยายามที่จะกลับเข้ามาในวงการแสดง ซึ่งก็ได้รับความกรุณาและเข้าใจจากผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ก็เลยได้มีโอกาสไปรับเชิญในละครหรือซิทคอมอย่างที่ได้เห็นกัน “The room” เป็นหนังผี (ซึ่งจริงๆ แล้วโยโกะเป็นคนกลัวผีมาก) ชื่อตอนคือ “Green Sonata” เรื่องนี้นักแสดงนำคือ คุณเป้ ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์ และ คุณ โอซา แวง ซึ่งจะโปรโมทในช่วงเดือนมกราคม 2014 นี้ล่ะค่ะ ถ้ายังไงโยโกะฝากติดตามด้วยนะคะ 

มาพูดถึงเรื่องที่หลายๆ คนไม่ค่อยจะรู้กันดีกว่า “โยโกะเป็นคนที่ธรรมะธัมโมมาก เรียกว่าคุณแม่พาโยโกะเข้าวัดมาตั้งแต่เด็กเรียกได้ว่าตระเวนไปหมดเกือบทุกที่”?   

โยโกะเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่แหวน สุจินโณตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ ก็คือสายธรรมยุติของหลวงปู่มั่นนั่นเอง คือคุณแม่จะชอบพาไปวัดไปทำบุญ พอโตขึ้นมาถ้ามีเวลาว่างก็จะตระเวณไปทำบุญตามที่ต่างๆ แต่ไม่ถึงกับไปปฎิบัติธรรมนะคะ และโยโกะคิดว่าประโยชน์จากการที่เราไปวัดตั้งแต่เด็กๆ นี้ ทำให้เรามีสภาวะที่สามารถความคุมอะไรต่างๆ ได้ดีขึ้นและดีกว่า 

ทีนี้มาถึงเรื่องสุขภาพบ้าง ทราบมาว่าโยโกะเป็นคนมีโรคประจำตัวเยอะมาก โยโกะเป็นโรคอะไรบ้างและรู้สึกท้อใจบ้างไหมคะ? 

โยโกะเป็นโรคเกี่ยวกับภูมิแพ้ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว คือจะแพ้เกือบทุกอย่างโดยเฉพาะแพ้ฝุ่นละอองและมลภาวะเป็นพิษต่างๆ  แต่อีกโรคหนึ่งที่เป็นและสร้างความท้อใจให้กับโยโกะมากก็คือโรค CIDP ชื่อเต็มก็คือ Chronic Inflammatory Demyelinating Polyneuropathy ซึ่งยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าสาเหตุเกิดจากกอะไร หรือเป็นโรคนี้ได้อย่างไร ผู้ที่เป็นโรคนี้จะทราบได้ก็ต่อเมื่อได้รับการตรวจเช็คจากโรงพยาบาลต่างๆ ที่ได้รับ IOS  ซึ่งอาการจะคล้ายกับ Hyperventilation  อาการของโรคคือมีอาการเกร็ง ปวดตามร่างกาย และเหนื่อยอย่างรุนแรงมาก บางครั้งก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีไฟฟ้ามาช๊อตตามตัวแบบจี๊ดๆ หรือกระตุกน่ะค่ะ ส่วนการพูดก็อาจติดขัดและมีอาการชาหน้ามืดมึนงงหรือหมดสติแต่ก็ไม่เสมอไป ซึ่งบางทีบางทีก็เกิดจากความกังวลด้วยซึ่งมีผลทำให้ค่า PH ในเลือดต่ำลง  

แล้วตอนนี้อาการเป็นอย่างไร ดีขึ้นบ้างไหมคะ? 

คือโยโกะเคยได้รับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่คอมาแล้วก็ดีขึ้นไประยะหนึ่งแต่สิ่งที่ทำให้โยโกะท้อใจอีกอย่างในการต่อสู้กับโรคนี้ก็คือ 1. เงิน เพราะแต่ละครั้งที่เข้ารับการรักษาตัวต้องใช้เงินค่อนข้างเยอะ 2. เวลา 3. ความเข้าใจในโรคนี้ ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ทำให้บั่นทอนจิตใจโยโกะเป็นอย่างมาก แต่ก็อย่างที่ได้กล่างมาข้างต้นว่า โชคดีที่คุณแม่พาเข้าวัดตั้งแต่เด็ก เราก็เลยได้เรียนรู้ที่จะควบคุมและยอมรับได้เกี่ยวกับอาการของโรคได้บ้างค่ะ 

(เนื่องจากทาง MaBrisbane ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และเพื่อให้คุณผู้อ่านเข้าในรายละเอียดเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น ท่านผู้อ่านสามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับโรคนี้ได้ที่ Wikipedia ค่ะ) 

ใช้หลักอะไรในการตั้งรับมือเมื่อมีปัญหาชีวิตเกิดขึ้น? 

หลักธรรมมะอย่างเดียวเลยค่ะ เพราะธรรมมะก็คือ”ธรรมชาติ” โยโกะปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปเองตามวิถีของมัน ซึ่งถ้าทุกวันนี้โยโกะไม่มีธรรมะเป็นทียึดเหนี่ยว โยโกะก็คงแย่เหมือนกัน 

กับวงการบันเทิง ข่าวอะไรที่ทำให้รู้สึกแย่ที่สุด และผ่านช่วงนั้นมาได้อย่างไร? 

ถ้าจำกันได้ช่วงประมาณ 20 ปีที่แล้ว โยโกะมีข่าวเกี่ยวกับตามหาคุณพ่อของตัวเอง แล้วก็เจอว่าคุณพ่อไปบวช (ปัจจุบันคุณพ่อของโยโกะเสียชีวิตแล้ว) โยโกะก็พยายามที่จะดูแลคุณพ่อตามกำลัง แต่ก็เกิดข่าวประมาณว่า “โยโกะเนรคุณไม่ให้เงินช่วยเหลือคุณพ่ออะไรประมาณนี้” ตอนนั้นโยโกะก็ช๊อคมาก เพราะคิดว่าเราพยายามที่จะตอบแทนพระคุณบุพการีทั้งๆ ที่ไม่เคยพบเจอกันมานานมากๆ แล้วแต่ทำไมเหตุการณ์กลับกลายเป็นอย่างนี้  และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นนั้นก็คือ หนึ่งวันก่อนที่คุณพ่อจะเสียชีวิต โยโกะมีเรื่องผิดใจกับคุณพ่อ คือมีการถกเถียงกันตามประสาพ่อลูกและก็ไม่ได้คิดด้วยว่าวันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้คุยกับคุณพ่อ พอมีคนโทรมาบอกว่าคุณพ่อเสียชีวิต(ตอนนั้นโยโกะเช่าห้องให้คุณพ่ออยู่ต่างหาก) โยโกะไม่สามารถยอมรับได้เลยคิดว่า”เป็นไปได้ไงเมื่อกี้ยังคุยกันอยู่เลย” ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้โยโกะเสียใจเป็นอย่างมาก  และสิ่งสุดท้ายที่โยโกะคิดว่าจะทำเพื่อตอบแทนคุณพ่อได้ก็คือการจัดงานศพให้คุณพ่อให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าช่วงนั้นตัวเองจะไม่สบายก็ตามประมาณว่าจัดงานไปเป็นลมไปจนคุณแม่ต้องเข้ามาดูแลโยโกะอย่างใกล้ชิดเพราะเห็นว่าอาการโยโกะย่ำแย่มากทั้งสุขภาพทางด้านร่างกายและจิตใจ  แต่โยโกะก็ยังดีใจที่ได้จัดงานศพให้คุณพ่อจนเสร็จสิ้นทุกอย่างและได้แบ่งกระดูกของคุณพ่อไปลอยอังคารทั้งที่ไทยและญี่ปุ่นค่ะ 

อยากให้แนะนำรุ่นน้องที่เพิ่งก้าวเข้ามาเป็นดารา นางแบบ ในรุ่นต่อไปว่า ต้องวางตัวอย่างไรและระวังอะไรบ้าง? 

ถ้าจะให้พูดเดี๋ยวจะหาว่าโยโกะแรงอีก เอาเป็นว่า โยโกะอยากให้คนที่เข้ามาในวงการนี้เข้ามาด้วยใจรักจริงๆ ไม่ใช่เข้ามาเพื่อต่อยอดหรือเป็นฐานทางธุรกิจ เพราะถ้าคุณไม่ได้มีใจรักทางด้านการแสดงก็เท่ากับว่าคุณเข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ของตัวคุณเอง และอีกอย่างคือ คุณไปปิดบังโอกาสของคนที่เค้ารักงานการแสดงจริงๆ ส่วนในเรื่องของการวางตัวก็อยากให้คำนึงถึงหลัก “อาวุโส” ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นใครในกองถ่าย ก็อยากให้น้องๆ ที่เข้ามาใหม่มีสัมมาคารวะและรู้จักยกมือไหว้ ไม่ใช่เห็นว่าพี่ๆ ทีมงานเป็นแค่พนักงานแล้วก็จะพูดจาหรือทำกิริยาอะไรที่ข้ามหัวพวกเค้าไป เอ โยโกะพูดแรงไปปะคะเนี่ย (หัวเราะ) และอีกอย่างคือต้องรู้จัก “ตรงเวลา”ค่ะ 

yoko001เรื่องของหัวใจ ตอนนี้มีใครหรือไม่คะ หรือยังคงความโสดสนิท?  

โสดสนิท ตัวเบ้อเริ่มเลยค่ะ (หัวเราะ) ก็ไม่ได้ปิดตัวหรือปิดหัวใจนะคะ เพียงแค่เรารู้ว่าเราต้องการคนแบบไหนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของเราก็เท่านั้น 

ตั้งความหวังกับชีวิตคู่ไหมคะ อยากได้คู่ชีวิตยังไง? 

หลังจากที่เคยมีประสบการณ์ผิดพลาดและบทเรียนเกี่ยวกับทางด้านความรักมา โยโกะแค่ขอให้คนๆ นั้นมีความรับผิดชอบ ยอมรับในความเป็นโยโกะได้ก็พอ เพราะโยโกะคงเปลี่ยนอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ก็จะพยายามปรับตัวบ้าง และที่สำคัญคือ ขอให้เคารพคุณแม่ของโยโกะเพราะเรามีกันสองคนแม่ลูกเท่านั้นค่ะ ถ้าใครไม่เคารพคุณแม่โยโกะต่อให้โยโกะรักมากแค่ไหน โยโกะก็คงให้ความรักมาก่อนคุณแม่ไม่ได้ 


อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดในการเป็น “โยโกะ ทาคาโน่ะ”? 


ความโชคดีในเรื่องของ “โอกาส” ซึ่งต้องขอขอบพระคุณผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในวงการทุกท่านที่เชื่อและให้โอกาสโยโกะ ได้ทำงานที่โยโกะรักค่ะ 

อะไรคือสิ่งที่แย่ที่สุดในการเป็น “โยโกะ ทาคาโนะ”? 

(หัวเราะ) คงเป็นเรื่องข่าวทางด้านลบประกอบกับโยโกะดูแล้วเป็นคนแรง (หัวเราะอีก) ก็เลยไปกันใหญ่ ซึ่งอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นน่ะคะว่า โยโกะก็คงไม่ตามไปแก้ข่าวอะไร ซึ่งถ้ามาคิดอีกที หลายๆ คนที่อยู่ในวงการก็โดนกัน หลักก็คือต้องพยายามทำใจให้ได้ ซึ่งบางครั้งในช่วงที่เราท้อๆ เหนื่อยๆ เราก็รู้สึกแย่บ้างเหมือนกัน 

คุณมีเลือดของคนญี่ปุ่นอยู่ครึ่งหนึ่ง อยากให้พูดถึงความแตกต่างระหว่างคนไทยกับคนญี่ปุ่นหน่อยค่ะ?  

อยากจะบอกว่าคนทุกประเทศมี รักโลภ โกรธ หลง เหมือนกันนะคะ เพียงแต่คนญี่ปู่นเป็นคนที่มีระเบียบวินัยมากและถ้าถึงเวลาที่ประเทศมีวิกฤติ คนญี่ปุ่นจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กันเอง ถ้าจำได้ก็ตอนที่ญี่ปุ่นโดนภัยธรรมชาติเมื่อประมาณสองปีก่อน ต่อให้คนญี่ปุ่นนหิวกันแค่ไหนเค้าก็ยังเข้าแถวเพื่อรอรับอาหารและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กันเอง แต่ถ้าเป็นคนไทยบางครั้งคนไทยจะนึกถึงความสำคัญของตัวเองมากไปหน่อยเลยทำให้บางครั้งก็กลายเป็นการเห็นแก่ตัว 

โยโกะ ทาคาโนะ จริงๆ แล้วเป็นคนยังไงคะ?  

เป็นคนจริงใจนะคะ บ๊องส์ๆ นิดๆ รักเพื่อนและรักครอบครัวค่ะ  ส่วนนิสัยคือ “ชัดเจน” 

อยากพูดอะไรกับแฟนๆที่บริสเบนเป็นการทิ้งท้ายไหมคะ? 

ฝากผลงานล่าสุดคือหนัง The Room นะคะ และก็ขอบคุณทุกท่านที่ยังจำและให้กำลังใจโยโกะได้ ถ้ามีโอกาสจะมาเที่ยวที่บริสเบนแน่นอนค่ะ เพราะเพื่อนสนิทของโยโกะก็อยู่ที่บริสเบน (หัวเราะ) และก็อย่าลืมรักษาสุขภาพและกลับมาเที่ยวเมืองไทยกันบ้างนะคะ สวัสดีปีใหม่ทุกท่านด้วยนะคะ บายค่ะ 
 

แล้วพบกับ MaBris Talk ในเดือนต่อไปนะคะ

 
ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 15 ก.ย. 2014
Miss Brisbane

Fashion Editor
MaBrisbane.com

 

เวปไซต์: www.facebook.com/serena.denis.1