ทางทีมงาน MaBrisbane ได้รับเกียรติจากคุณแอนดรูว์ พาร์ค (Mr. Andrew Park) เข้าสัมภาษณ์พูดคุยเกี่ยวกับการเข้ารับตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์คนใหม่ของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ได้เปิดสถานกงสุลไทยรัฐควีนส์แลนด์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้คุณแอนดรูว์จะมาพูดคุยถึงเรื่องหน้าที่การทำงานของตำแหน่งกงสุลฯ และการได้เข้ามาช่วยเหลือชุมชนชาวไทย..
For English version please click here
This is part of Thailand. We aim to be a very friendly, helpful service to people.
- Mr. Andrew Park
อยากให้คุณแอนดรูว์ช่วยแนะนำตัวให้กับคนไทยในบริสเบนและควีนส์แลนด์ด้วยค่ะ ว่าเข้ามารับตำแหน่งนี้ได้อย่างไร และก่อนหน้านี้เคยทำงานอะไรคะ
สวัสดีครับ, ผมชื่อ Andrew Park อายุ 40 ปี ผมแต่งงานกับคุณวาสนา เรามีลูกชายด้วยกันสองคน ผมถูกแต่งตั้งให้เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำรัฐควีนส์แลนด์ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ผมทำหน้าที่เป็นตัวแทนให้แก่สถานทูตในควีนส์แลนด์นั่นเองครับ
การที่ผมได้มีโอกาสมาเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ น่าจะเริ่มมาจากคุณวาสนา ภรรยาของผม เราแต่งงานกันมาได้ 10 ปีแล้ว และคบกันมาก่อนหน้านั้น 5-6 ปี ช่วงเวลาดังกล่าวผมได้มีโอกาสได้เข้าไปช่วยเหลือและร่วมงานกับชุมชนไทยนับครั้งไม่ถ้วน ในช่วงที่กงสุลคนก่อนประกาศว่าจะเกษียณแล้ว และมีการเปิดรับสมัครตำแหน่งใหม่ ผมก็ได้ยื่นความจำนงที่จะรับตำแหน่ง หลังจากผ่านการสัมภาษณ์และเอกสารระหว่างรัฐบาลไทยและออสเตรเลียมากมาย ผมก็ได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ตอนนี้ผมก็ยังคงทำงานอื่นอยู่ เพราะตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ โดยทั่วไปแล้วผู้ที่ได้รับตำแหน่งก็มีงานประจำที่อื่น ส่วนตัวผมเองทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจระหว่างรัฐและสื่อ ผมอยู่ในวงการนี้มาหลายปีพอสมควร ผมยังมีร้านอาหารไทยอีกหลายสาขา และกำลังจะเปิดสาขาใหม่เร็ว ๆ นี้ ผมเคยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองด้วยกว่า 10 ปี ซึ่งในตอนนั้นผมและคุณวาสนาได้อาศัยอยู่ในกรุงแคนเบอร์ร่าเป็นเวลา 5 ปี ด้วยประสบการณ์ในงานหลาย ๆ ด้านของผม ทำให้ผมเข้าใจบทบาทและปฏิบัติหน้าที่ของกงสุลได้ดี
เกี่ยวกับตำแหน่งกงสุลรัฐควีนส์แลนด์นั้น หน้าที่หลักมีอะไรบ้างคะ
กงสุลของเราให้บริการหลายอย่างด้วยกัน ในเรื่องของสถานที่ตั้งนั้น ผมตัดสินใจเลือกสถานที่ให้อยู่ในใจกลางเมืองบริสเบน เพื่อความสะดวกในการไปมาของคนไทยและผู้ที่ต้องการมาใช้บริการ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากที่ให้คนรู้จักประเทศไทยมากขึ้นในรัฐควีนส์แลนด์ ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากว่าผมกำลังมุ่งให้เกิดการค้าขายลงทุนกันระหว่างรัฐควีนส์แลนด์และประเทศไทยด้วย
หน้าที่หลักอย่างแรกของเราก็คือ การช่วยเหลือคนไทยในด้านต่าง ๆ ปัญหาน้อยใหญ่ อาจจะเป็นในเรื่องอุบัติเหตุ เสียชีวิต หรืออื่น ๆ ที่คนไทยต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย อีกหนึ่งหน้าที่ ๆ สำคัญของเราก็คือการช่วยเหลือชุมชนไทยที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคนไทยเอง องค์กร วัด สมาคม และสื่อต่าง ๆ
หน้าที่หลักอย่างที่สองก็คือ การทำวีซ่าให้กับผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปเมืองไทย ซึ่งกงสุลกิตติมศักดิ์ในออสเตรเลียที่เมลเบิร์น แอดิเลด เพิร์ท บริสเบน และโฮบาร์ท สามารถให้บริการนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าธุรกิจ การศึกษา หรือโวลันเทียร์ โดยปกติแล้วชาวออสเตรเลียสามารถเดินทางไปเมืองไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งจะอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน หากใครที่ต้องการจะอยู่นานกว่านั้นหรือมีโอกาสได้ไปมาบ่อย ๆ เราก็สามารถช่วยเหลือในเรื่องวีซ่าส่วนนี้ได้
อีกหนึ่งอย่างที่ผมสนใจที่จะทำก็คือการสร้างศูนย์ฝึกงานและหางานให้แก่นักเรียนไทยที่มาเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ได้มีโอกาสฝึกงานและทำงานในสาขาที่พวกเขาเรียนจบมา เพราะนักเรียนเหล่านี้ไม่ทราบถึงวัฒนธรรมธุรกิจที่นี่ ไม่รู้จักใคร และไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน ด้วยเครือข่ายทางธุรกิจของผมที่มี ผมสามารถที่จะสร้างโอกาสให้กับนักเรียนเหล่านี้ เพื่อที่เขาจะได้ประสบการณ์ในการทำงานจริงกลับไปด้วย หรือเป็นการเริ่มต้นในการหางานที่นี่หากสาขาที่เขาเรียนมาเป็นที่ต้องการในออสเตรเลีย
นอกจากงานบริการของกงสุลแล้ว ทราบมาว่าคุณแอนดรูว์ยังมีส่วนช่วยเหลือนักธุรกิจชาวออสเตรเลียที่ต้องการทำธุรกิจในประเทศไทย พอจะช่วยเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ได้มั้ยคะ เผื่อมีผู้อ่านอยากเอาไปแนะนำต่อให้เพื่อนชาวออสเตรเลียฟัง
นอกเหนือจากงานของกงสุลที่กล่าวมาในก่อนหน้านี้แล้ว เรายังช่วยเหลือธุรกิจของออสเตรเลียที่สนใจจะไปทำธุรกิจในเมืองไทย โดยให้ความรู้และสร้างโอกาสให้เกิดขึ้น ในทางกลับกัน เราก็สามารถช่วยเหลือธุรกิจของคนไทยที่ต้องการจะมาทำธุรกิจในรัฐควีนส์แลนด์ด้วยเหมือนกัน ส่วนใหญ่แล้วบริษัทที่ไทยก่อนจะมาลงทุนที่นี่ ก็พอจะมีความรู้อยู่บ้าง แต่ผมสามารถให้การช่วยเหลือได้ด้วยแบคกราวด์ และความรู้ของผม
ผมเดินทางไปเมืองไทยค่อนข้างบ่อยเหมือนกัน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผมได้ถูกเชิญโดยท่านเอกอัครราชทูตให้ไปร่วมงานส่งเสริมการค้า โดยมุ่งไปที่ธุรกิจทางการเกษตร ควีนส์แลนด์เป็นหนึ่งในรัฐที่มีการทำธุรกิจทางการเกษตรขนาดใหญ่ในออสเตรเลีย เราได้พาผู้ปลูกแครอทในเมือง Kalbar ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับ Boonah ไปเปิดตลาดในเมืองไทยในห้างดัง ๆ อย่าง Big C, Tops, และ Macro ได้รับเสียงตอบรับที่ดี เพราะว่าเมืองไทยนิยมหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้นและต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ได้มาตรฐาน เป็นธรรมชาติ มีคุณภาพสูง รสชาติอร่อย ซึ่งออสเตรเลียสามารถผลิตให้ได้ หากตลาดโตขึ้น เจ้าของธุรกิจนี้ก็คงจะลงทุนสร้างฐานในเมืองไทย ซึ่งจะเป็นการทำให้เศรษฐกิจของเมืองไทยเติบโตขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มงานให้กับคนไทยอีกด้วย
สำหรับบริษัทออสเตรเลียที่สนใจจะไปลงทุนในเมืองไทย ทางกงสุลยินดีที่จะให้คำปรึกษาได้ในเบื้องต้น ทางเมืองไทยมีหน่วยงานคือ กรมส่งเสริมการลงทุนระหว่างประเทศ (Board of Investment, BOI) ซึ่งเขาจะจัดงานสัมมนาเร็ว ๆ นี้ที่บริสเบนในวันที่ 1 สิงหาคม เปิดให้ใครก็สามารถเข้ามาร่วมงานได้ แต่จะต้องแจ้งความประสงค์การเข้าร่วมประชุมก่อนล่วงหน้า(RSVP) รายละเอียดเกี่ยวกับงานและการ RSVP เราจะแจ้งให้ทราบอีกที(ติดตามได้ทางเว็บไซต์ของสถานกงสุลฯ) โดยในงานท่านเอกอัครราชทูต ตัวแทนจาก BOI และบริษัทออสเตรเลียที่ได้ทำการลงทุนในประเทศไปแล้ว จะมาพูดถึงประสบการณ์ความสำเร็จในการลงทุนในเมืองไทยให้ฟังกัน
ตอนนี้สถานกงสุลควีนส์แลนด์ก็เปิดมาได้ซักระยะนึงแล้ว มีผลตอบรับอย่างไรบ้าง และในตอนนี้เปิดให้บริการเต็มที่หรือยังคะ
เนื่องจากมันเป็นช่วงระยะเวลาที่ค่อนข้างนานระหว่างกงสุลก่อนหน้านี้ได้ปิดบริการลงและเราได้เปิดบริการขึ้น ผู้คนอาจจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ว่ามีกงสุลไทยเปิดให้บริการใหม่ในบริสเบนแล้ว ผมเชื่อว่าในชุมชนไทย ทุกคนค่อนข้างที่จะทราบกันแล้ว ส่วนสำหรับชาวออสเตรเลียและต่างชาติเราเริ่มเห็นทยอยกันเข้ามาบ้าง ผมอยากเห็นการพัฒนาในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและรัฐควีนส์แลนด์
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกหดหู่ตั้งแต่ได้รับตำแหน่งนี้มาคือ ผมได้ทราบมาว่ามีผู้หญิงไทยจำนวนไม่น้อยที่มาที่นี่ด้วยวีซ่าแต่งงาน หลังจากที่พวกเขามาถึงออสเตรเลียได้ไม่นานก็พบปัญหาต่าง ๆ หนึ่งในปัญหานั้นที่ร้ายแรงก็คือ การใช้ความรุนแรงในครอบครัว (Domestic Violence, DV) ผู้ที่ประสบปัญหานี้ส่วนใหญ่ไม่มีที่พึ่งและไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใคร ผมอยากที่จะเห็นและกำลังสร้างกลุ่มสำหรับช่วยเหลือผู้หญิงเหล่านี้ โดยการกระจายข่าว ความรู้ ในเรื่องของทางเลือกและการช่วยเหลือที่พวกเขาสามารถได้รับ ผ่านไปทางชุมชนและสื่อต่าง ๆ แม้ว่าทางรัฐบาลไทยจะไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้เต็มที่ แต่ทางรัฐควีนส์แลนด์และออสเตรเลียสามารถช่วยได้ ภายใต้กฎหมาย DV
สำหรับในส่วนการบริการ สิ่งที่เราได้รับการถามเข้ามามากคือการทำหนังสือเดินทาง ซึ่งบริการนี้มีเพียงสถานทูตที่แคนเบอร่าและสถานกงสุลใหญ่ที่ซิดนีย์สามารถทำให้ได้เท่านั้น เราไม่สามารถรับใบสมัครใด ๆ ได้ อย่างไรก็ตามในทุก ๆ ปีจะมีกงสุลสัญจรมาเปิดให้บริการที่ออฟฟิศของเรา 1-2 ครั้ง เราเพิ่งจะเปิดให้บริการนี้ไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้มาทำหนังสือเดินทางด้วยกัน 300 คนใน 1 อาทิตย์ และเราหวังว่ากงสุลสัญจรจะกลับมาอีกในช่วงเดือนพฤศจิกายน
รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้มีส่วนช่วยเหลือชุมชนไทย และ สุดท้ายนี้มีอะไรอยากจะฝากบอกถึงชาวไทยในควีนส์แลนด์บ้างค่ะ
ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่มีโอกาสได้ช่วยเหลือชุมชนไทย และคนไทยที่ผมชื่นชม ผมอยากที่จะช่วยเหลือทุกคนด้วยใจจริง ผมเข้าใจเลยว่าการที่เราต้องมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในถิ่นที่ไกลจากบ้านเกิด เมื่อเรามีปัญหา มันคงจะดีมากถ้ามีที่ที่เราสามารถขอความช่วยเหลือได้ ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า กงสุลของเราคือส่วนหนึ่งของประเทศไทย เพราะฉนั้นคุณสามารถที่จะติดต่อเราได้ทุกเมื่อ
ทางทีมงานขอขอบพระคุณท่านกงสุลกิตติมศักดิ์รัฐควีนส์แลนด์ สำหรับการสัมภาษณ์ครั้งนี้ด้วยค่ะ สำหรับเพื่อน ๆ ท่านใดมีธุระต้องการใช้บริการของสถานกงสุล สามารถติดต่อได้ที่ข้อมูลด้านล่างนี้เลยค่ะ
ที่ตั้งสถานสถานกงสุลไทยรัฐควีนส์แลนด์
Royal Thai Consulate Queensland
Level 19, 344 Queen St, Brisbane 4000 Queensland Australia
ข้อมูลติดต่อ
Tel: +61 7 3493 6464
Fax: +61 7 3493 6465
Email: info@royalthaiconsulatebrisbane.com
Website: http://www.royalthaiconsulatebrisbane.com
เวลาทำการ
9.30am - 2.30am
Monday - Friday
